บมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค (ECF) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2562 เมื่อวันที่ 29 มี.ค. อนุมัติเลื่อนการเข้าลงทุนในบริษัท เอสเทรค (ประเทศไทย) จำกัด (S-TREK) และการเพิ่มทุนและการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เกี่ยวข้องกับการเข้าลงทุนใน S-TREK หลังเบื้องต้นพบการบันทึกบัญชีของ S-TREK อาจมีการบันทึกบัญชีที่ยังไม่เป็นไปตามมาตรฐานบัญชี ส่วนจะนำวาระการเข้าลงทุนในหุ้นสามัญของ S-TREK เข้าพิจารณาการลงทุนอีกครั้งในช่วงเวลาใดนั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะกรรมการบริษัทเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติให้ยกเลิกมติของที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 13/2561 และมติของที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/2562 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเข้าลงทุนใน S-TREK และการเพิ่มทุนและการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เกี่ยวข้องกับการเข้าลงทุนใน S-TREK เนื่องจากนับตั้งแต่ที่คณะกรรมการบริษัทอนุมัติการเข้าลงทุนใน S-TREK มีข้อเท็จจริงและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างที่จะมีการนำเสนอเรื่องดังกล่าวต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2562 ซึ่งข้อเท็จจริงและเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมีผลกระทบที่เป็นนัยสำคัญต่อการเข้าทำรายการดังกล่าว จึงได้พิจารณาทบทวนการเข้าลงทุนใน S-TREK อีกครั้ง
จากการพิจารณาทบทวนดังกล่าว จึงได้เลื่อนการเข้าลงทุนใน S-TREK เนื่องจากการบันทึกบัญชีของ S-TREK อาจมีการบันทึกบัญชีที่ยังไม่เป็นไปตามมาตรฐานบัญชี ซึ่งทาง S-TREK อาจไม่สามารถแก้ไขปรับปรุงได้ทันก่อนกำหนดเวลาในการเข้าทำรายการที่ได้ตกลงไว้กับบริษัท ขณะที่ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระมีความเห็นว่าการเข้าทำรายการยังมีความไม่เหมาะสมในขณะนี้ โดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระได้คำนึงถึงประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับรายงานตรวจสอบบัญชีเป็นกรณีพิเศษ รวมถึงการพิจารณาเงื่อนไขในการเข้าทำรายการที่สำคัญ อย่างไรก็ตามบริษัทได้มีการแก้ไขเงื่อนไขที่สำคัญต่าง ๆ ในการเข้าลงทุนใน S-TREK แต่ยังไม่สามารถทำความตกลงในข้อสรุปที่สำคัญของสัญญาดังกล่าวได้ในช่วงที่ผ่านมา
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ECF มีแผนจะซื้อหุ้นไม่เกิน 51% ใน S-TREK โดยการออกหุ้นเพิ่มทุนเพื่อชำระค่าหุ้นดังกล่าว โดย S-TREK เป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้าน IT Solution ในการเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอที ให้กับบริษัทชั้นนำระดับโลก มายาวนานกว่า 30 ปี รวมถึงมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย โดยมีผลิตภัณฑ์พร้อมจำหน่ายมากกว่า 5,000 รายการ และมีกลุ่มลูกค้าทั้งในกรุงเทพมหานครและทั่วประเทศไทย มากกว่า 4,000 ร้านค้า
คณะกรรมการบริษัท อนุมัติแก้ไขวาระการเพิ่มทุนและการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ได้อนุมัติในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 13/2561 และที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/2562 โดยในการเพิ่มทุนจดทะเบียนและการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนยังคงมีการออกและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) ตามแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) และการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน เพื่อรองรับการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 3 สำหรับผู้ถือหุ้นเดิม (ECF-W3) ดังนี้
มีมติอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท จำนวน 26.75 ล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่จำนวน 107 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท เสนอขาย PP ไม่เกิน 95 ล้านหุ้น ส่วนที่เหลืออีก 12 ล้านหุ้น รองรับการปรับสิทธิของ ECF-W3 ซึ่งภายหลังการเพิ่มทุนครั้งนี้ บริษัทจะมีทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 312.46 ล้านบาท จากเดิมที่ 285.71 ล้านบาท