บมจ.จี เจ สตีล (GJS) แจ้งว่าตามที่บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนไม่เกิน 1.2 หมื่นล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.96 บาท จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) 1 หุ้นเดิมต่อ 0.83 หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ 0.13 บาท ,รองรับการปรับสิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ครั้งที่ 3 และครั้งที่ 4 หรือ GJS-W3 และ GJS-W4 นั้น
เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา บริษัท Asia Credit Opportunities I (Mauritius) Limited (ACO I) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกลุ่ม SSG ซึ่งประกอบธุรกิจหลักในด้านการบริหารสินทรัพย์ลงทุนทางเลือก (Alternative Asset Management) โดยมุ่งเน้นการลงทุนในสินเชื่อ (Credit) และการลงทุนในทรัพย์สินที่อยู่ภายใต้สภาวะเงื่อนไขพิเศษ (Special Situation Assets) ในเอเชียนั้น ได้ใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุนเกินกว่าสัดส่วนการถือหุ้นเดิม ส่งผลให้ ACO I ถือหุ้นในบริษัทเพิ่มเป็น 42.54% จากเดิมที่ 24%
ดังนั้น ACO I จึงมีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ โดยกำหนดราคาเสนอซื้อหุ้นสามัญเท่ากับ 0.13 บาท/หุ้น และเนื่องจากราคาใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ GJS-W3 และ GJS-W4 ซึ่งเท่ากับ 0.1668 บาท/หุ้น และ 0.1668 บาท/หุ้น ตามลำดับ สูงกว่าราคาเสนอซื้อหุ้นสามัญที่ 0.13 บาท/หุ้น รวมทั้ง ACO I ไม่มีการได้มาซึ่งใบสำคัญแสดงสิทธิทั้ง 2 รุ่น ในช่วงระยะเวลา 90 วันก่อนวันที่ยื่นคำเสนอซื้อนี้ ซึ่งเข้าข้อยกเว้นตามนัยของข้อ 7(2) ของประกาศ ทจ. 12/2554 ACO I จึงไม่มีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อใบสำคัญแสดงสิทธิ GJS-W3 และ GJS-W4
นอกจากนี้ ACO I ไม่มีความประสงค์ที่จะขอเพิกถอนหลักทรัพย์ของกิจการออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในระยะเวลา 12 เดือน นับจากวันสิ้นสุดระยะเวลารับซื้อ และ ACO I จะนำส่งแบบคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (แบบ 247-4) ภายในวันที่ 15 พ.ค.62
ทั้งนี้ บริษัทได้รับทราบในเบื้องต้นจาก ACO I ว่า ACO I ไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการประกอบธุรกิจของบริษัท และบริษัทย่อยของบริษัท โดยจะสนับสนุนให้บริษัทรักษาทิศทางการดำเนินธุรกิจและการประกอบกิจการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนหลายเกรดเช่นเดิมต่อไป นอกจากนี้ ACO I ไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของคณะกรรมการต่าง ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบันของบริษัท อันได้แก่ คณะกรรมการบริษัท คณะกรรมการตรวจสอบ และคณะกรรมการบริหาร เป็นต้น อีกทั้งไม่มีความประสงค์ที่จะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กร ผู้บริหาร หรือพนักงานของบริษัทแต่อย่างใด ซึ่งบริษัทยังคงดำเนินงานและบริหารงานตามนโยบายธุรกิจเดิมของบริษัท
สำหรับการเพิ่มทุนครั้งนี้ ส่งผลให้โครงสร้างการถือหุ้นในบริษัทเปลี่ยนแปลง ดังนี้ ACO I ถือหุ้น 42.54% จากเดิม 24% , บมจ.จี สตีล (GSTEL) ถือหุ้น 8.33% จาก 15.24% , Nomura Singapore Limited-Customer Segregated Account ถือหุ้นเท่าเดิม 7.8% , นางจารุณี ชินวงศ์วรกุล ถือหุ้น 7.23% จากเดิม 6.04% , China Tonghai Securities Limited - Account Client ถือหุ้น 5.01% จากเดิม 3.45% เป็นต้น