บมจ.วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย (VGI) แจ้งแผนการดำเนินงานในปี 62/63 (เม.ย.62-มี.ค.63) โดยวางเป้าหมายรายได้รวมอยู่ที่ 6,000-6,200 ล้านบาท เติบโตประมาณ 20% อัตรากำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA Margin) และอัตรากำไรสุทธิอยู่ในช่วง 40-45% และ 20-25% ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและผลักดันให้การเติบโตเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ มีดังต่อไปนี้
ธุรกิจสื่อโฆษณา จะได้รับประโยชน์จากการขยายเส้นสายของรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่จะมีขบวนรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีก 10 ขบวน นอกจากนี้ยังเล็งเห็นโอกาสการสร้างรายได้จากการดำเนินกลยุทธ์ปรับเปลี่ยนไปสู่การโฆษณาแบบดิจิทัล โดยเฉพาะการเปิดตัวผลิตภัณฑ์โฆษณาดิจิทัลรูปแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี เช่น Visual Recognition (VR) เพื่อให้ VGI สามารถนำเสนอรูปแบบการโฆษณาได้อย่างสร้างสรรค์และสามารถวัดผลได้ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้เพิ่มอีก 3 สถานี ได้แก่ อโศก พร้อมพงษ์ และศาลาแดง ภายในไตรมาส 2 ปี 62/63
นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งหน่วยธุรกิจใหม่ขึ้นภายใต้ชื่อ "Digital Lab" เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจากสื่อโฆษณาออนไลน์ที่มีการเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และยังมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างสรรค์ synergies จากการร่วมมือกับบมจ.แพลน บี มีเดีย (PLANB) ผ่านการรวมเครือข่ายของสื่อโฆษณานอกบ้านก่อให้เกิดประสิทธิภาพทางต้นทุน รวมไปการหาช่องทางการตลาดใหม่ ๆ ร่วมกัน เพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า
ธุรกิจบริการชำระเงิน ยังคงขยายจำนวนบัตรแรบบิทและผู้ใช้ Rabbit LinePay อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการสร้างประสบการณ์การใช้จ่ายอย่างไร้รอยต่อให้แก่ผู้ใช้บริการ โดยในปีนี้คาดว่าจำนวนบัตรแรบบิทจะเพิ่มขึ้น 36% จากงวดปีก่อน จาก 11 ล้านใบ เป็น 15 ล้านใบ ในขณะที่จำนวนผู้ใช้งาน Rabbit LinePay จะเพิ่มขึ้น 45% จากงวดปีก่อน จาก 5.5 ล้านราย เป็น 8.0 ล้านราย
ธุรกิจโลจิสติกส์ Kerry จะมุ่งมั่นขยายครือข่ายการขนส่งสินค้า เพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตของตลาด e-Commerce โดยปัจจุบัน Kerry ได้เปิดร้านให้บริการรับส่งพัสดุบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสแล้วจำนวน 2 สถานี ได้แก่ สถานีพร้อมพงษ์ และทองหล่อ ทั้งนี้ Kerry มีแผนจะเปิดให้บริการร้านรับส่งพัสดุดังกล่าวให้ครอบคลุมทั้งเครือข่ายของรถไฟฟ้าบีทีเอส นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าจะสามารถรับรู้ synergies จากความร่วมมือกับ Kerry ได้มากยิ่งขึ้น จากการขยายการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อาทิ สินค้าทดลอง (Smart Sampling) และสื่อโฆษณาบนรถบรรทุกของ Kerry
นายเนลสัน เหลียง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ VGI กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินงานในปี 61/62 (เม.ย.61-มี.ค.62) บริษัททำรายได้เติบโตเหนือความคาดหมาย ด้วยรายได้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 31.0% เป็น 5,158 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิสูงกว่า 1,101 ล้านบาท โตขึ้น 30.1% จากปีก่อน ซึ่งความสำเร็จนี้มาจากการผสมผสานกลยุทธ์ O2O Solutions ที่นำจุดแข็งของแต่ละแพลตฟอร์มมาสร้างสรรค์และต่อยอดทางธุรกิจ
โดยที่ผ่านมาบริษัทประสบความสำเร็จในการปรับเปลี่ยนรูปแบบของธุรกิจจากเดิมที่เป็นผู้ให้บริการด้านสื่อโฆษณานอกบ้านเพียงอย่างเดียวไปสู่ กลยุทธ์ทางการตลาดแบบ O2O Solutions ผสานการทำงานร่วมกันบนทุกแพลตฟอร์มในเครือข่าย เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการแบบไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการชำระเงิน และธุรกิจโลจิสติกส์ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทมีรายได้เติบโตแบบทะลุเป้าและทำรายได้สูงสุดนับตั้งแต่เปิดดำเนินการ
ธุรกิจสื่อโฆษณา มีกลยุทธ์การวางรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่อการเติบโตแบบมั่นคง โดยในปี 61/62 สื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชน ทำรายได้ 2,354 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสาเหตุหลักมาจากอัตราการใช้สื่อที่มากขึ้น โดยเฉพาะสื่อโฆษณาประเภทดิจิทัลและพื้นที่ร้านค้าบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สื่อโฆษณาในอาคารสำนักงานและอื่น ๆ มีการเติบโตขึ้นอย่างโดดเด่นเช่นกัน มีรายได้ 414 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.4% และยังคงความเป็นผู้ในตลาดนี้ด้วยจำนวนอาคารภายในการบริหารทั้งสิ้น 180 อาคาร สำหรับสื่อโฆษณากลางแจ้งทำรายได้เพิ่มขึ้น 12.6% เป็น 1,079 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องของสื่อโฆษณาดิจิทัลบิลบอร์ดจำนวน 35 จอ ที่ได้เปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม 2560 ของบมจ.มาสเตอร์ แอด (MACO)
นอกจากนี้ VGI ได้เข้าถือหุ้นจำนวน 18.6% ใน PLANB ผู้ให้บริการสื่อโฆษณานอกบ้านชั้นนำของประเทศไทย ด้วยมูลค่าลงทุนที่ 4,260 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะทำให้ทั้งสองบริษัทเป็นผู้นำตลาดสื่อนอกบ้านของประเทศไทย ด้วยมูลค่าสื่อรวมกันกว่า 12,000 ล้านบาท การเข้าไปร่วมลงทุนในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในการทำงานของแพลตฟอร์มต่างๆ ของ VGI ร่วมกับกลยุทธ์ของทางพันธมิตรและยกระดับความแข็งแกร่งในการสร้างโอกาสทางธุรกิจอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ที่ผ่านมา VGI ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อว่า VGI AnyMind Technology Company Limited ร่วมกับ AnyMind ผู้นำธุรกิจสื่อโฆษณาที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการสร้างมูลค่าเพิ่มและยังเป็นผู้นำธุรกิจด้านการตลาดเชิงอิทธิพล (Influencer Marketing) โดย VGI ถือหุ้น 49% และ AnyMind กับผู้ถือหุ้นอื่นถือหุ้น 51% ซึ่งจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดังกล่าวร่วมกับสื่อ Digital OOH ของ VGI เพื่อสร้างสรรค์การโฆษณาอย่างมีประสิทธิภาพและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทั้งออฟไลน์และออนไลน์
นอกจากนี้ VGI ยังได้ลงนามในสัญญาเพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อ VClick Technologies Limited โดย iClick Interactive Asia Group Limited ถือหุ้นในสัดส่วน 49% VGI ถือหุ้นในสัดส่วน 30% และผู้ถือหุ้นอื่นๆ 21% ทั้งนี้ iClick คือผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเทคโนโลยีการตลาดออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยจบโอกาสการโฆษณาตลาดผู้บริโภคชาวจีน โดยใช้ข้อมูลผ่านเทคโนโลยี AI พัฒนาแอพพลิเคชั่นมือถือและเปิดตัวเครื่องบริการชาร์จมือถือพร้อมจอแสดงผลแบบดิจิทัล ผ่านเครือข่ายของ VGI จำนวน 10,000 จุดทั่วประเทศไทย
ธุรกิจบริการชำระเงิน มีรายได้ทั้งสิ้น 1,311 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 246.8% สาเหตุหลักมาจากการควบรวมงบการเงินของกลุ่มทรานส์ แอด ผู้ให้บริการด้านงานระบบแบบครบวงจร โดย MACO รวมถึงการเพิ่มขึ้นของรายได้จากกลุ่มแรบบิท ที่ประกอบด้วยรายได้จากการบริหารโครงการ lead generation และการเพิ่มขึ้นของจำนวนการขายกรมธรรม์ประกัน ทั้งนี้ บริษัทยังได้พัฒนาการให้บริการชำระเงินอย่างต่อเนื่อง และร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจชั้นนำในหลากหลายอุตสาหกรรม ตามแนวคิดการเข้าสู่สังคมไร้เงินสด (Cashless Society)
โดยในปีนี้จำนวนผู้ใช้ Rabbit Card มีจำนวนทั้งสิ้น 11 ล้านใบ เพิ่มขึ้น 23% บรรลุตามเป้าหมายสำหรับปีที่ตั้งไว้ที่ 10.5 ล้านใบ รวมทั้ง Rabbit LinePay ที่ยังคงได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก ปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้บริการมากกว่า 5.5 ล้านราย เพิ่มขึ้น 2.6 ล้านคน หรือ 83% ช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้สูงกว่าเป้าหมายเต็มปีที่ตั้งไว้ที่ 5.3 ล้านราย
ธุรกิจโลจิสติกส์ VGI ถือหุ้น 23% ของ Kerry Express (Thailand) ปัจจุบัน Kerry สามารถส่งได้ถึง 1.2 ล้านชิ้นต่อวัน ซึ่งการลงทุนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง O2O Ecosystem ที่ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มธุรกิจของ VGI ทั้งการโฆษณา การชำระเงิน และโลจิสติกส์ โดยเราได้เปิดตัว " Smart Sampling" ผ่านเครือข่ายของ Kerry นอกเหนือไปจากการแจกของแบรนด์ยังสามารถทำกิจกรรมทางการตลาดแบบออฟไลน์และออนไลน์ได้หลายรายการพร้อมกันกับกลุ่มเป้าหมาย