ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ขอให้ผู้ถือหุ้นของบมจ.จี สตีล (GSTEL) ศึกษาข้อมูลการทำรายการรับความช่วยเหลือทางการเงินจากบริษัท มหาชัยศูนย์รวมเหล็ก จำกัด และนายนิรัมดร์ งามชำนัญฤทธิ์ เมื่อปี 2557 จำนวนไม่เกิน 4,610 ล้านบาท ซึ่งเข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน และที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) เห็นว่าผู้ถือหุ้นไม่ควรให้สัตยาบันการทำรายการดังกล่าว
ทั้งนี้ GSTEL จะเสนอผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการให้สัตยาบันรายการรับความช่วยเหลือทางการเงินจากบริษัท มหาชัยศูนย์รวมเหล็ก จำกัด และนายนิรัมดร์ งามชำนัญฤทธิ์ (กลุ่มมหาชัย) ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ของ GSTEL ณ ขณะเข้าทำรายการ โดยปี 2557 กลุ่มมหาชัย ให้วงเงินสินเชื่อหมุนเวียนทางการค้า หนังสือค้ำประกัน และเงินกู้ยืม จำนวนไม่เกิน 4,610 ล้านบาท และปี 2559 นายนิรัมดร์ ให้วงเงินกู้ยืมเงินจำนวน 30 ล้านบาท ซึ่งเข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันคิดเป็นขนาดรายการ 19.21% และ 0.29% ของมูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิ ตามลำดับ โดยแต่งตั้งบล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA)
ขณะที่ IFA เห็นว่า ผู้ถือหุ้นไม่ควรให้สัตยาบันสำหรับรายการรับความช่วยเหลือทางการเงินปี 2557 เนื่องจากผลประโยชน์ที่บริษัทได้รับไม่คุ้มค่าโดยเงื่อนไขสัญญาบังคับให้กลุ่มมหาชัยเป็นตัวแทนจำหน่ายเพียงผู้เดียวและมีอำนาจควบคุมเกินกว่าคู่ค้าทั่วไป รวมทั้งมีค่าใช้จ่าย Agent Fee เพิ่มขึ้นทำให้ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทลดลง แต่เห็นว่าควรให้สัตยาบันสำหรับรายการรับความช่วยเหลือทางการเงินปี 2559 เนื่องจากบริษัทกู้ยืมเพื่อไปชำระค่าภาษีสรรพากร หากไม่ชำระจะถูกคิดเบี้ยปรับอัตรา 18% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากนายนิรัมดร์ โดยบริษัทไม่ต้องวางหลักประกันและสามารถชำระคืนก่อนกำหนดโดยไม่เสียค่าปรับ
อย่างไรก็ตามคณะกรรมการตรวจสอบเห็นว่าผู้ถือหุ้นควรให้สัตยาบันการรับความช่วยเหลือทางการเงินทั้ง 2 รายการดังกล่าว เนื่องจากสถานะการเงินของบริษัทมีความเสี่ยงด้านเครดิตสูงไม่สามารถกู้ยืมจากสถาบันการเงินได้ การได้รับเงินทุนหมุนเวียนทำให้สามารถรักษาสถานภาพทางธุรกิจให้อยู่รอดจนถึงปัจจุบัน บริษัทสามารถกลับมาดำเนินการผลิตได้ตามปกติ และการแต่งตั้งกลุ่มมหาชัยเป็นตัวแทนจำหน่ายช่วยลดความเสี่ยงการจำหน่ายสินค้าได้
อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ผู้ถือหุ้นของ GSTEL ศึกษาข้อมูลและรายงานความเห็น IFA อย่างรอบคอบและรักษาสิทธิของผู้ถือหุ้น โดยเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 เวลา 9.30 น. ณ โรงแรมอโนมา กรุงเทพฯ