นายไลโอเนล ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไรมอน แลนด์ (RML) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมี่ยมชั้นนำของไทย เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า บริษัทเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ในการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ มุ่งเน้นเพิ่มธุรกิจใหม่ที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) มากขึ้น เพื่อสร้างฐานรายได้เติบโตตามเป้า 1 หมื่นล้านบาทภายใน 5 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่มีรายได้เฉลี่ย 3-4 พันล้านบาทต่อปี
ล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างเตรียมขยายการลงทุนในธุรกิจโรงแรม เป็นธุรกิจใหม่ของกลุ่มฯ เนื่องจากไทยเป็นเมืองการท่องเที่ยว จึงมองเห็นโอกาสเติบโตในระยะยาว โดยเฉพาะจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นจำนวนมาก คาดเห็นความชัดเจนเรื่องการก่อสร้างในครึ่งหลังของปีนี้
เบื้องต้น RML วางงบลงทุนราว 3-5 พันล้านบาท พร้อมตั้งเป้าขยายจำนวนห้องพักให้ได้ 1,000 ห้องภายในปี 65 อย่างไรก็ตาม รูปแบบการลงทุนในธุรกิจโรงแรมนั้น บริษัทพร้อมเปิดโอกาสร่วมลงทุนกับพันธมิตร โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มมูลค่าในแต่ละโครงการ แต่หากในกรณีไม่มีผู้ร่วมลงทุนบริษัทมีความพร้อมขยายธุรกิจด้วยตัวเอง
โครงสร้างรายได้ของ RML ในอีก 5 ปีข้างหน้าจะเปลี่ยนแปลงจากปัจจุบันมีรายได้หลักจากธุรกิจที่พักอาศัย (Residential) จะลดลงมาเหลือ 60% และอีก 40% มาจากธุรกิจที่เป็น Recurring income ทั้งจากธุรกิจอาคารสำนักงาน ร้านอาหารที่ต่างประเทศที่ร่วมมือกับบ้านหญิง ธุรกิจโรงแรมและบริการ เป็นต้น
"ในอีก 3 ปีข้างหน้าสัดส่วนธุรกิจที่พักอาศัยก็ยังเป็นรายได้หลักของบริษัท เนื่องจากธุรกิจโรงแรมต้องใช้ระยะเวลานาน อาจต้องใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 3 ปี หรือกรณีเข้าไปซื้อโรงแรมเก่า ก็ต้องใช้เวลาทำใหม่เช่นกัน ดังนั้นแหล่งรายได้ใหม่ๆ ที่มาจาก Recurring Income น่าจะเห็นเข้ามาชัดเจนในอีก 5 ปีข้างหน้า ที่ผ่านมาทีมบริหารมองหาโอกาสในธุรกิจสร้าง Recurring Income อยู่เสมอ เพราะมีประสบการณ์หลายอย่างในธุรกิจโรงแรม สำนักงานออฟฟิศ และธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ที่ล่าสุดได้เปิดร้านอาหารในต่างประเทศที่ร่วมมือกับบ้านหญิง บริษัทไม่ต้องการให้มีรายได้มาจากแหล่งเดียวคือจากธุรกิจที่พักอาศัย"นายไลโอเนล ลี กล่าว
สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทเตรียมเปิดโครงการที่พักอาศัยใหม่ (residential) 2 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท
ส่วนแผนขยายธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในอนาคตนั้น ล่าสุดบริษัทยังคงมองหาโอกาสเข้าร่วมลงทุนหรือซื้อกิจการ เพื่อต่อยอดฐานรายได้ในระยะยาว ซึ่งปัจจุบันกระแสเงินสดหรือเงินใช้ขยายกิจการมีเพียงพอ แต่หลักการเข้าซื้อกิจการที่ดีนั้นนอกจากต่อยอดธุรกิจหลักแล้ว จำเป็นต้องคำนึงถึงราคาที่เหมาะสมด้วย
ปัจจุบัน RML ร่วมทุนกับบ้านหญิงกรุ๊ป ซึ่งเป็นธุรกิจร้านอาหารที่มีประสบการณ์ 20 ปี เพื่อลงทุนธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (F&B-Foods & Beverages) โดย RML ถือหุ้น 51% บ้านหญิงกรุ๊ป 49% ตั้งเป้ารายได้เพิ่มเป็น 1,000 ล้านบาทภายในปี 65 มีเป้าหมายเปิด 10-15 สาขาภายในปี 63 ในตลาดเออีซี 10 ประเทศและประเทศจีน เมืองหลักที่เป็นพื้นที่เป้าหมายขยายสาขา ได้แก่ สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ พนมเปญ ฮานอย โฮจิมินห์ เซินเจิ้น เซี่ยงไฮ้ กวางโจว เป็นต้น
นายไลโอเนล ลี กล่าวอีกว่า แม้ว่าภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยในช่วงนี้อาจจะไม่ได้ฟื้นตัวมากเหมือนในอดีต แต่ในมุมมองระยะยาวตลาดอสังหาฯ ในเอเชียและในไทยยังมีความแข็งแกร่ง ในขณะที่กลุ่มลูกค้าของบริษัทเป็นตลาดบน ทั้งกลุ่มชาวไทย 50% และต่างชาติ 50% ดังนั้น กลยุทธ์หลักของบริษัทจะยังมุ่งเน้นขยายโครงการทำเล CBD ในกรุงเทพมหานครที่ยังมีความต้องการกำลังซื้อแท้จริง ส่งผลให้สามารถรักษายอดขายให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
"แม้ว่าเรายังเฝ้าระวังสถานการณ์เศรษฐกิจในไทยและของโลก แต่มีความเชื่อมั่นว่าโครงสร้างพื้นฐานที่เกิดขึ้นในไทย จะสร้างโอกาสเติบโตในระยะยาว สำหรับส่วนธุรกิจโรงแรม การลงทุนขยายสนามบินใหม่ของรัฐบาลจะหนุนให้มีนักท่องเที่ยวมากขึ้นในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ อาทิ ภูเก็ต สมุย ซึ่งพื้นที่เหล่านี้บริษัทมองหาโอกาสขยายการลงทุนในธุรกิจโรงแรม ทั้งหมดนี้ผมเชื่อว่าโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ จะเป็นปัจจัยบวกต่อทั้งประเทศและยังเป็นปัจจัยบวกกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทเช่นกัน" นายไลโอเนล ลี กล่าว
https://youtu.be/lGK8NYre_Ao