ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ปลดเครื่องหมายห้ามการซื้อขายหลักทรัพย์ (SP) บมจ. พีพี ไพร์ม (PPPM) ตั้งแต่การซื้อขายรอบบ่ายของวันนี้ หลังจากบริษัทชี้แจงผลกระทบต่อฐานะการเงินและการดำเนินงานของบริษัทแล้ว
ทั้งนี้ PPPM ชี้แจงล่าสุดเกี่ยวกับเหตุการณ์ผิดนัดหุ้นกู้ว่า บริษัทได้ออกหุ้นกู้รวมทั้งหมด 5 ครั้ง และชี้แจงการชำระหนี้หุ้นกู้ดังนี้
1) หุ้นกู้ลำดับที่ 1 จำนวน 260.50 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 ก.ค.62 นายทะเบียนหุ้นกู้ได้ชำระหนี้ให้กับผู้ถือหุ้นกู้ไปบางส่วน เป็นเงินจำนวนประมาณ 216.8 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะได้เข้าไปเจรจาชำระหนี้คืนให้กับธนาคารโดยเร่งด่วนต่อไป สำหรับหุ้นกู้ส่วนที่เหลือ จำนวนประมาณ 43.7 ล้านบาท บริษัทจะชำระดอกเบี้ยและต้นเงินให้กับผู้ถือหุ้นกู้ทุกราย ภายในวันที่ 2 ส.ค.62 ณ สำนักงานบริษัท ฟีนิกซ์ แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด โดยเงินชำระหนี้ดังกล่าวมาจากการเพิ่มทุน
2) หุ้นกู้ลำดับที่ 2 จำนวน 319.50 ล้านบาท ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในวันที่ 2 ส.ค.62 บริษัทจะชำระหนี้ต้นเงินและ ดอกเบี้ยภายใน 5 วัน นับแต่วันครบกำหนดไถ่ถอน (วันที่ 7 ส.ค.62) ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดสิทธิตามข้อกำหนดว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของ ผู้ออกหุ้นกู้และผู้ถือหุ้นกู้โดยเงินที่มาชำระดังกล่าวจะมาจากการขายหลักทรัพย์เพื่อค้า, เงินทุนหมุนเวียนของกิจการและเงินจากการเพิ่มทุน
ชื่ออและประเภทของหุ้นกู้ มูลหนี้ (จำนวนหุ้นกู้ที่ขาย) วันครบกำหนดไถ่ถอน วันที่ชำระเหนี้ต้นเงินและดอกเบี้ย
(ไม่รวมดอกเบี้ย)
1) หุ้นกู้ครั้งที่ 1/2560 260.50 27 ก.ค.62 2 ส.ค.62 (TLUXE197A) 2) หุ้นกู้ครั้งที่ 2/2561 319.50 2 ส.ค.62 7 ส.ค.62 (TLUXE198A) รวมทั้งหมด 580.00 หุ้นกู้ที่ยังไม่ครบกำหนดไถ่ถอน 3) หุ้นกู้ครั้งที่ 3/2561 134.00 3 ก.ย.62 (TLUXE199A) 4) หุ้นกู้ครั้งที่ 1/2561 200.00 8 พ.ค.63 (TLUXE205A) 5) หุ้นกู้ครั้งที่ 1/2562 207.60 18 มี.ค.64 (PPPM213A)
รวมทั้งหมด 541.60
3) หุ้นกู้ลำดับที่ 3 ถึงลำดับที่ 5 เป็นหุ้นกู้ที่ยังไม่ครบกำหนดไถ่ถอน จำนวน 541.60 ล้านบาท เมื่อบริษัทมิได้ผิดนัดชำระหนี้ หุ้นกู้ตามลำดับที่ 1 และลำดับที่ 2 แล้ว จึงไม่มีเหตุการณ์ผิดนัดชำระหนี้เงินเกิดขึ้นแต่อย่างใด ซึ่งบริษัทจะจัดการบริหารเงินเพื่อให้สามารถ ชำระหนี้ได้ตามกำหนดระยะเวลาไถ่ถอนหุ้นกู้และบริษัทฯ จะไม่มีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ในเรื่องดังกล่าวอีกต่อไป และเมื่อได้ชำระหนี้ไถ่ถอน หุ้นกู้แล้วจะได้เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป
บริษัทมีหนี้เงินกู้ระยะสั้นและระยะยาวรวมเป็นเงินจำนวนรวม 927 ล้านบาท เมื่อบริษัทยังมิได้มีการผิดนัดชำระหนี้ดังกล่าว ข้างต้น ดังนั้น ภาระหนี้ดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัทเช่นกัน และไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท ซึ่งบริษัทยังคงประกอบธุรกิจอาหารสัตว์และธุรกิจพลังงานความร้อนใต้พิภพ ประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งหมด 15 ยูนิตได้ตามปกติ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ ได้ดำเนินการจำหน่ายออกไป