CCET เผยปี 50 กำไรเพิ่มแต่อัตรากำไรสุทธิลดเหลือ 3.08% จาก 3.12% ปีก่อน

          นายโจว ข่ง ซิ่ง กรรมการผู้จัดการ บมจ. แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (CCET) ชี้แจงผลการดำเนินงานสิ้นสุดปี 2550 บริษัทฯมีกำไรสุทธิเท่ากับ 2,900.60 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.38 จากปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรสุทธิของบริษัทฯลดลงเล็กน้อยจากร้อยละ 3.12 ในปี 2549 เป็นร้อยละ 3.08 ในปี 2550 
          สาเหตุของการลดลงของอัตรากำไรสุทธิปี 2550 นั้นเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายจากสินค้าแผ่น PC Board สำหรับ Hard Disk Drive จากทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้ารายใหม่ของบริษัทฯ ซึ่งสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าที่มีกำไรต่อหน่วยต่ำ
          ในปี 2550 บริษัทฯมีรายได้จากการขายสินค้า เท่ากับ 93,824.68 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.75 จากปี 2549 ทั้งนี้บริษัทฯยังมีรายได้จากการโอนกลับค่าเผื่อการลดมูลค่าของเงินทุนระยะยาวอื่นจำนวน 76.75 ล้านบาทและรายได้อื่นอีกจำนวน 255.51 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯมีรายได้รวมทั้งสิ้นในปี 2550 เท่ากับ 94,156.94 ล้านบาท รายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้นมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อในกลุ่มของอุปกรณ์ประกอบคอมพิวเตอร์ แผ่น PC Board สำหรับ Hard Disk Drive และกลุ่มโทรศัพท์เคลื่อนที่ จากกลุ่มลูกค้าเดิม และกลุ่มลูกค้าใหม่ ทั้งในโรงงานในประเทศไทยและโรงงานในประเทศจีน
          บริษัทฯมีต้นทุนขายเป็นจำนวน 89,150.61 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 95.02 ของรายได้จากการขายซึ่งเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 94.92 ในปี 2549 สำหรับอัตราส่วนกำไรขั้นต้นของบริษัทฯลดลงจากร้อยละ 5.08 ในปี 2549 เป็นร้อยละ 4.98 ในปี 2550 การเพิ่มขึ้นของสัดส่วนต้นทุนขายเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายจากสินค้าแผ่น PC Board สำหรับ Hard Disk Drive จากทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้ารายใหม่ของบริษัทฯ ซึ่งสินค้าดังกล่าวเป็นสินค้าที่มีกำไรต่อหน่วยต่ำ เนื่องมาจากการเป็นสินค้ากึ่งสำเร็จรูป ดังนั้นจึงส่งผลให้สัดส่วนของต้นทุนขายเมื่อเปรียบเทียบกับรายได้เพิ่มสูงขึ้น
          บริษัทฯมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เป็นจำนวน 1,416.67 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ1.51 ของรายได้จากการขาย ลดลงจากร้อยละ 1.54 ของรายได้จากการขายในปี 2549 การลดลงของค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร เนื่องมาจากการปรับปรุงการบริหารจัดการโรงงานและการบริหารค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
          บริษัทฯมีภาระดอกเบี้ยจ่าย เท่ากับ 435.15 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 372.42ล้านบาทในปี 2549 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย อีกทั้งการที่บริษัทฯมีรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นทำให้บริษัทฯต้องการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อนำมาสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ จึงทำให้บริษัทฯมีภาระดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา