บมจ.อินทัช (INTUCH) แจ้งว่า ผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2562 อินทัชมีกำไรสุทธิที่ 5,845 ล้านนบาท ลดลงร้อยละ 16 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการรับรู้กำไร 463 ล้านบาท จากการขายบมจ.ซีเอส ล็อกอินโฟ (CSL) เมื่อไตรมาส 1/2561 หากไม่รวมกำไรจากการขายดังกล่าว กำไรจากการดำเนินงานลดลงร้อยละ 10 โดยสาเหตุหลักมาจากการรับรู้กำไรจากบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC)หรือ เอไอเอส ลดลงที่ร้อยละ 7 มาอยู่ที่ 6,084 ล้านนบาท และการรับรู้ผลขาดทุนจากไทยคม (THCOM)ที่ 69 ล้านบาท จากที่รับรู้ผลกำไรเมื่อช่วงเดียวกันของปีก่อน
ในไตรมาส 2/62 นี้กลุ่มอินทัชมีกำไรสุทธิรวม จำนวน 2,941 ล้านบาท ใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านมา แต่ลดลงร้อยละ 11 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เนื่องจากการลดลงของส่วนแบ่งผลกำไรจากธุรกิจโทรคมนาคมไร้สายภายในประเทศ ซึ่งดำเนินงานโดยกลุ่มเอไอเอส และการลดลงของส่วนแบ่งผลการดำเนินงานจากธุรกิจดาวเทียมและธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งดำเนินงานโดยกลุ่มไทยคม
ในไตรมาสที่ 2/62 พอร์ตการลงทุนภายใต้โครงการอินเว้นท์มีการเปลี่ยนแปลง โดยอินทัชได้ทำการขายหุ้นของบริษัท ดิจิโอ จำกัด และได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ร้อยละ 30 (อัตรากำไรจากการลงทุน) หรือคิดเป็น IRR ที่ร้อยละ 13.5 ภายในระยะเวลาการลงทุน 2 ปี
นอกจากนี้ อินทัช ได้มีการลงทุนในบริษัท เพียร์ พาวเวอร์ จำกัด (เพียร์ พาวเวอร์) ด้วยการให้เงินลงทุนในลักษณะการกู้ยืมจำนวน 8 ล้านบาท เพียร์ พาวเวอร์ ประกอบธุรกิจสร้างแพลตฟอร์มสินเชื่อระหว่างนิติบุคคลและนักลงทุน (debt crowdfunding) และ ระหว่างบุคคลต่อบุคคล (peer-to-peer lending) โดยตรงผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งอินทัชเล็งเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจนี้ โดยธนาคารแห่งประเทศไทยและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้เปิดโอกาสให้บริษัทที่ไม่ใช่ธนาคารขอรับใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจดังกล่าว
จากกิจกรรมที่เกิดขึ้นในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 ทำให้พอร์ตการลงทุนของอินทัชภายใต้โครงการอินเว้นท์อยู่ที่ 908 ล้านบาท (ไม่รวมบริษัทที่ขายออกและตัดจำหน่าย) เพิ่มขึ้นจาก 728 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2561
สำหรับในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 อินทัชยังคงมองหาการลงทุนธุรกิจในกลุ่มเทคโนโลยีเกิดใหม่หรือมีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง รวมทั้งแสวงหาการลงทุนที่สามารถต่อยอดการเกิดขึ้นของเทคโนโลยี 5G ได้ในอนาคต เช่น Artificial Intelligence (AI) Internet of Things (IoT) Blockchain Data Analytics เป็นต้น ภายใต้งบประมาณการลงทุนที่ 200 ล้านบาท นอกจากการลงทุนใหม่ๆ อินทัชได้พิจารณาและหาโอกาสในการขายหุ้นที่ลงทุนไปแล้วเพื่อเก็บเกี่ยวผลกำไรจากการลงทุนนั้น