บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 2/62 บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 10,015.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาส 2/61 ที่มีรายได้ 9,302.6 ล้านบาท ขณะที่มีค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 10,804.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทขาดทุนสุทธิ/ขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมสำหรับงวด 482.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีขาดทุนต่อหุ้นขั้นพื้นฐานอยู่ที่ 0.0995 บาท
ในไตรมาส 2/62 มีปริมาณผู้โดยสารเติบโตกว่า 5% มาอยู่ที่ 5.6 ล้านคน ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่สูงกว่าการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยในช่วงเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตามราคาค่าโดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 1,390 บาทต่อคน ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการแข็งค่าของเงินบาทและการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนจากการอ่อนค่าลงของค่าเงินหยวน ส่งผลให้อัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ 83% ลดลง 2 จุดจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ในไตรมาสนี้ บริษัท ไทยแอร์เอเชีย มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 212.5 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 49.2 ล้านบาท ในไตรมาส 2/61 จากค่าเงินบาทที่แข็งค่า อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสนี้มีการบันทึกรายการพิเศษจากหนี้สินสำรองผลประโยชน์ระยะยาวของพนักงานจำนวน 111 ล้านบาท ส่งผลให้มีผลขาดทุนก่อนค่าใช้จ่ายทางการเงินและภาษีเงินได้อยู่ที่ 790.4 ล้านบาท และมีอัตรากำไรก่อนค่าใช้จ่ายทางการเงิน, ภาษีเงินได้, ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่า (EBITDAR Margin) ที่ 10% อีกทั้งค่าใช้จ่ายทางการเงินเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ย ส่งผลให้ ไทยแอร์เอเชีย มีขาดทุนสุทธิ/ขาดทุนในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมสำหรับไตรมาส 2/62 จำนวน 879.1 ล้านบาท คิดเป็นอัตราขาดทุนสุทธิ 9%
สำหรับครึ่งปีแรกปี 62 ไทยแอร์เอเชีย มีรายได้ 21,637.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากรายได้ในครึ่งปีแรกปี 61 ที่ 20,896.2 ล้านบาท โดยหลักมาจากรายได้จากการขายและการให้บริการ 20,764.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปริมาณผู้โดยสารในครึ่งปีแรกปี 62 ที่เติบโต 4% มาอยู่ที่ 11.4 ล้านคน ส่งผลให้อัตราการขนส่งผู้โดยสารแข็งแกร่งอยู่ที่ 86% อย่างไรก็ตามค่าโดยสารเฉลี่ยอยู่ที่ 1,474 บาทต่อคน ลดลง 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเติบโตอย่างชะลอตัวของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ กอปรกับค่าเงินบาทที่แข็งค่ากดดันความต้องการเดินทางท่องเที่ยวมายังประเทศไทย
นอกจากนี้บริษัทไม่มีการรับมอบเครื่องบินเพิ่มในครึ่งปีแรกปี 62 ส่งผลให้มีฝูงบินจำนวนทั้งสิ้น 62 ลำ ในครึ่งปีแรกปี 62 ปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขยายเส้นทางใหม่และเพิ่มความถี่ในเส้นทางบินที่ได้รับความนิยม สู่ประเทศจีน อินโดจีน และอินเดีย และสามารถเพิ่มอัตราการใช้เครื่องบินต่อลำเท่ากับ 12.5 ชั่วโมงปฏิบัติการบินต่อวัน จาก 12.2 ชั่วโมงปฏิบัติการบินต่อวันในครึ่งปีแรกปี 61 ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ในครึ่งปีแรกปี 62 ไทยแอร์เอเชีย มีค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 21,299.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เท่ากับ 19,332.3 ล้านบาท โดยหลักมาจากค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้น 11% สอดคล้องกับการขยายปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร แม้ว่าราคาเฉลี่ยน้ำมันจะปรับตัวลดลงก็ตาม ซึ่งส่งผลต่อการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจากค่าน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นต้นทุนหลักคิดเป็น 35% ของต้นทุนรวมของบริษัท
อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายในการขายลดลงจากการลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายพนักงานและการบันทึกรายการพิเศษจากหนี้สินสารองผลประโยชน์ระยะยาวของพนักงานจานวน 111 ล้านบาท ดังนั้น บจ. ไทยแอร์เอเชีย มีกาไรสุทธิ/ กำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมสำหรับครึ่งปีแรกปี 2562 จำนวน 23.8 ล้านบาท จากจำนวน 1,267.1 ล้านบาท ในครึ่งปีแรกปี 2561 หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 0.1