บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (14 ส.ค.) ได้มีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้บริษัทเข้าลงนามสัญญาร่วมทุนกับบมจ.ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น (TRC) และบริษัท แอพไพลแอ๊นซ์ เทคโนโลยี่ ซัพพลายส์ จำกัด ด้วยการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน ชื่อ บริษัท แอท เอนเนอจี โซลูชั่น จำกัด ทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท โดย AGE ถือหุ้น 45% ,TRC ถือหุ้น 45% และ แอพไพลแอ็นซ์ ถือหุ้น 10% เพื่อประกอบธุรกิจหลักด้านพลังงาน และธุรกิจการจัดหาและให้บริการด้านสาธารณูปโภค โดยเฉพาะด้านพลังงานให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป เช่น การผลิตและจำหน่าย ไอน้ำ ไฟฟ้า และน้ำใช้สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม เป็นต้น
การเข้าร่วมทุนดังกล่าวจะก่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด (synergy) ระหว่างกัน เนื่องจากผู้ร่วมทุนมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านการก่อสร้างอย่างครบวงจร การจัดหาแหล่งเชื้อเพลิง และการให้บริการออกแบบและซ่อมบำรุง เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับงานสาธารณูปโภค และยังทำให้สามารถขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มขึ้น และจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้น
สำหรับแหล่งเงินลงทุนจะมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินกิจการ ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องหรือการดำเนินงานของบริษัท
นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร AGE กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของธุรกิจของบริษัทร่วมทุนดังกล่าวจะจัดหา และให้บริการด้านสาธารณูปโภคแก่โรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป อาทิ การผลิตและจำหน่าย ไอน้ำ ไฟฟ้า และน้ำใช้ สำหรับโรงงานอุตสาหกรรม โดยใช้เชื้อเพลิงถ่านหิน หรือเชื้อเพลิงอื่นๆในการผลิต ตามความประสงค์ของลูกค้า
บริษัทเล็งเห็นว่าการขยายการลงทุนไปยังธุรกิจจัดหาและให้บริการด้านพลังงาน ในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างความแข็งแกร่งของผลการดำเนินงาน ทั้งรายได้ และกำไรของบริษัทให้เติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืนในอนาคต นอกเหนือจากธุรกิจการจัดหา และจัดจำหน่ายถ่านหิน และธุรกิจการให้บริการโลจิสติกส์ที่มีอยู่เดิม
ปัจจุบันบริษัท แอท เอนเนอจี โซลูชั่น จำกัด อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่หลายราย เพื่อให้บริษัทร่วมทุนให้บริการจัดหาและให้บริการด้านพลังงาน ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนในด้านการดำเนินงานตั้งแต่ปลายปี 62 และคาดจะสร้างผลตอบแทนให้กับบริษัทเป็นรูปธรรมได้ในปี 63
เบื้องต้น บริษัทร่วมทุน ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่องซื้อขายไอน้ำกับ บมจ.อุตสาหกรรมไทยบรรจุภัณฑ์ คาดว่าจะเริ่มมีการซื้อขายและรับรู้รายได้ในปี 63 ถือเป็นลูกค้ารายแรก และหลังจากนี้ก็อาจเห็นการเซ็นสัญญากับลูกค้าอุตสาหกรรมอีกหลายรายอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนของผลการดำเนินงานของบริษัทร่วมทุนได้ตั้งแต่ปลายปี 63 และจะรับรู้รายได้อย่างเป็นรูปธรรมในปี 64 ซึ่งบริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% และคาดหวังผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ไม่ต่ำกว่า 10%
นายพนม กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลการดำเนินงานของ AGE ในปีนี้ บริษัทเตรียมเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทภายในเดือนส.ค.62 เพื่อพิจารณาปรับเป้าหมายรายได้ลง จากเดิมที่คาดว่าจะมีรายได้แตะ 9,000 ล้านบาท หรือเติบโต 20% จากปีก่อนอยู่ที่ 7,956.48 ล้านบาท เนื่องจากราคาถ่านหินที่ปรับตัวลดลง แต่ยังเชื่อว่ากำไรสุทธิปีนี้จะดีกว่าปีก่อนที่ทำได้ 127.21 ล้านบาท เป็นไปตามธุรกิจโลจิสติกส์มีการเติบโต และบริษัทยังดำเนินการลดต้นทุนอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้คาดว่าจะเติบโตดีกว่าครึ่งปีแรก โดยเฉพาะในไตรมาส 4 ถือว่าเป็นช่วงของไฮซีซั่นของธุรกิจ ซึ่งบริษัทเตรียมส่งมอบถ่านหินอีก 1 ล้านตัน จากทั้งปีตั้งไว้ที่ 4 ล้านตัน ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายถ่านหินในประเทศไทยอยู่ที่ 80% และต่างประเทศอยู่ที่ 20%