บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) แจ้งว่าเมื่อวานนี้ (24 ก.ย.) คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อผลการคัดเลือกเอกชน ผลการเจรจาและร่างสัญญาร่วมทุนโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเสนอมา โดยกลุ่มกิจการร่วมค้า กัลฟ์และพีทีทีแทงค์ ซึ่งประกอบไปด้วย GULF และ บริษัท พีทีที แทงค์ เทอร์มินอล จำกัด ในกลุ่มบมจ.ปตท. (PTT) ร่วมทุนกันในสัดส่วนร้อยละ 70 และ 30 ตามลำดับ เป็นผู้ที่ได้รับคัดเลือกให้ดำเนินโครงการ
สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้จะมีการลงนามสัญญาร่วมลงทุนระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnership: PPP) กับทางการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ต่อไป
โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ตำบลมาบตาพุด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง บนพื้นที่ประมาณ 1,000 ไร่ โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็นสองช่วง ดังนี้
ช่วงที่หนึ่ง เป็นงานออกแบบและก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ซึ่งประกอบด้วย งานขุดลอกและถมทะเลในเนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ งานขุดลอกร่องน้ำและแอ่งกลับเรือ งานก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นและงานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานต่าง ๆ ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างไม่เกิน 3 ปี โดยเอกชนจะได้รับผลตอบแทนเป็นรายปีจาก กนอ. เป็นระยะเวลา 30 ปี
ช่วงที่สอง เป็นงานก่อสร้างท่าเทียบเรือก๊าซและสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (Superstructure) บนพื้นที่ถมทะเลประมาณ 200 ไร่ เพื่อรองรับปริมาณการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ไม่น้อยกว่า 5 ล้านตัน/ปี และส่วนขยายไปจนถึง 10.8 ล้านตัน/ปี โดยเอกชนจะได้รับผลตอบแทนเป็นค่าบริการเก็บรักษาและแปรสภาพก๊าซธรรมชาติจากของเหลวให้เป็นก๊าซ (LNG Terminal Fee) จากผู้ใช้บริการ