บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) แจ้งว่า PT Keramika Indonesia Assosiasi Tbk (KIA) ซึ่งดำเนินธุรกิจเซรามิกในประเทศอินโดนีเซีย และเป็นบริษัทย่อยในกลุ่มธุรกิจเซรามิกภายใต้ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจหลักของบริษัทนั้น ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างธุรกิจภายในกลุ่มบริษัท KIA เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม รวมถึงการปรับโครงสร้างการถือหุ้น การปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน และการปรับโครงสร้างการผลิต
การปรับโครงสร้างธุรกิจภายในกลุ่มบริษัท KIA ดังกล่าวเกี่ยวข้องกับบริษัทย่อยของ KIA 2 บริษัท ได้แก่ PT KIA Serpih Mas (KSM) และ PT KIA Keramik Mas (KKM)
ในส่วนของการปรับโครงสร้างธุรกิจ KSM ประกอบด้วยการขายหุ้น KSM ร้อยละ 13.32 ที่ถือโดยบริษัท เอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด ให้แก่บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด และการเพิ่มทุนจดทะเบียนของ KSM จำนวน 40,000 ล้านรูเปีย (หรือประมาณ 90 ล้านบาท) ซึ่ง KIA ได้สละสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุน และ เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่ออกใหม่ทั้งหมด ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นระหว่าง KIA และ เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ใน KSM เป็นร้อยละ 72.30 : 27.70 ตามลำดับ
สำหรับการปรับโครงสร้างธุรกิจของ KKM เป็นการขายหุ้น KKM ร้อยละ 0.79 ที่ถือโดย เอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ให้แก่ เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ซึ่งสัดส่วนการถือหุ้นระหว่าง KIA และ เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ใน KKM เป็นร้อยละ 99.21 : 0.79 ตามลำดับ
ทั้งนี้ เอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เป็นบริษัทย่อยที่ SCC ถือหุ้นร้อยละ 99.99 และเป็นหนึ่งในบริษัทย่อยหลักของธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างของ SCC ตั้งแต่ปี 2556 โดยในปัจจุบัน เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เป็นบริษัทย่อยที่ SCC ถือหุ้นทั้งหมด