ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รับหลักทรัพย์ บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป ใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ AWC เข้าซื้อขายใน SET ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กำหนดวันที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนและวันที่เริ่มทำการซื้อขายวันที่ 10 ต.ค.62 โดยมีจำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ฯ และหุ้นชำระแล้ว 30,957 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท คิดเป็นทุนชำระแล้ว 30,957 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 6,957 ล้านหุ้น เสนอขายประชาชนทั่วไปจำนวน 6,957 ล้านหุ้น ราคาเสนอขายหุ้นละ 6 บาท ระหว่างวันที่ 25 ก.ย.-3 ต.ค.62 ขณะที่มีการจำหน่ายหุ้นสำหรับการจัดสรรส่วนเกิน จำนวน 1,043 ล้านหุ้น ซึ่งเป็นการยืมหุ้นมาจากนายเจริญ สิริวัฒนภักดี
AWC ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ โดยมีบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจหลักซึ่งก่อให้เกิดกำไรหลัก 12 บริษัท
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลท.เปิดเผยว่า AWC ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ซึ่งประกอบธุรกิจหลักในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ (1) กลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ (Hospitality) โดยโรงแรมของ AWC บริหารจัดการภายใต้แบรนด์ชั้นนำที่มีคุณภาพและเป็นที่รู้จักในระดับสากล อาทิ แมริออท อะ ลักซ์ชูรีคอลเล็คชั่น โฮเทล, โอกุระ, เลอ เมอริเดียน, บันยันทรี, ฮิลตัน, ดับเบิ้ลทรี บาย ฮิลตัน, เชอราตันและมีเลีย และ (2) กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อการพาณิชย์ (Retail and Commercial Building) ซึ่งครอบคลุมโครงการในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อประกอบกิจการการค้า (Retail and Wholesale) และอาคารสำนักงาน (Office)
AWC มีทุนจดทะเบียน 32,000 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 24,000 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 8,000 ล้านหุ้น แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 6,957 ล้านหุ้น และจัดสรรหุ้นสามัญส่วนเกิน 1,043 ล้านหุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 6 บาท มีมูลค่าระดมทุนรวม 41,742 ล้านบาท (ไม่รวมหุ้นที่จัดสรรส่วนเกิน) และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 185,742 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง และบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร เป็นที่ปรึกษาทางการเงินผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย พร้อมด้วยบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์เป็นบริษัทผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
ด้านนางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ AWC เปิดเผยว่า AWC มีแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในครั้งนี้ไปลงทุนในการเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติมรวม 12 แห่ง ซึ่งประกอบด้วยโรงแรมที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งหมด 4 แห่ง โรงแรมที่อยู่ระหว่างการพัฒนา จำนวน 6 แห่ง และอสังหาริมทรัพย์มิกซ์ยูส (Mixed-use Properties) ที่อยู่ระหว่างการพัฒนา จำนวน 2 แห่ง นอกจากนี้จะนำเงินที่เหลือไปชำระคืนเงินกู้ธนาคารและพัฒนาทรัพย์สินของบริษัท
หลัง IPO AWC มีผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ กลุ่มครอบครัวนายเจริญ สิริวัฒนภักดี ถือหุ้นรวม 77.5% ของทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้ว การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้บริษัทพิจารณาจากอัตราส่วนราคาหุ้นต่อมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น (Price to Book Value Ratio : P/BV) โดยอ้างอิงอัตราส่วนราคาหุ้นต่อมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น (P/BV) ที่ประมาณ 5 เท่า คำนวณจากอัตราส่วน P/BV ย้อนหลังเฉลี่ย 12 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2561 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2562) ของบริษัทจดทะเบียนที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจที่คล้ายคลึงหรือใกล้เคียงกับการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และมูลค่าตามบัญชีต่อหุ้น (Book Value Per Share) เท่ากับ 1.2 บาทต่อหุ้น คำนวณจากส่วนของผู้ถือหุ้นที่เป็นของบริษัทใหญ่ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2562 หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้น จำนวน 30,957 ล้านหุ้น
ทั้งนี้ AWC มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติตามงบการเงินรวมของบริษัท หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และหลังหักเงินสำรองต่าง ๆ ตามที่กฎหมายและบริษัทกำหนดไว้ในแต่ละปี ทั้งนี้อาจพิจารณาจ่ายเงินปันผลแตกต่างไปจากนโยบายที่กำหนดไว้ได้ ขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงาน ฐานะทางการเงินกระแสเงินสด เงินทุนหมุนเวียน แผนการลงทุนและการขยายธุรกิจ สภาพตลาด ภาระหนี้สินเงื่อนไขและข้อจำกัดตามที่กำหนดไว้ในสัญญากู้ยืมเงิน