TUF แจงกำไรปี 50 หด 4% เหตุราคาวัตถุดิบปลาทูน่าสูงขึ้น-เงินบาทแข็งค่า

          นายชวน   ตั้งจันสิริ กรรมการ บมจ.ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ (TUF) ชี้แจงว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อย สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีรายปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2550 ดังนี้ บริษัทมีรายได้จากการขายในรูปเงินเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 11% 
จากในปี 2549 และมีรายได้จากการขายในรูปเงินบาทเท่ากับ 55,507.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับปีก่อนซึ่งเท่ากับ 55,038.6 ล้านบาท 
          ส่วนกำไรสุทธิในปีนี้เท่ากับ 1,823.3 ล้านบาท (2.08 บาทต่อหุ้น ณ จำนวนหุ้น 878,794,950 หุ้น) ลดลง 4% จากกำไรในรอบระยะเวลาบัญชีเดียวกันของปี 2549 ซึ่งเท่ากับ 1,901.3 ล้านบาท (2.18 บาทต่อหุ้น ณ จำนวนหุ้น 874,055,950 หุ้น)  เนื่องจากราคาวัตถุดิบปลาทูน่าที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 2/50 และค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น 8.8% จากปีก่อน นอกจากนี้ ภาษีเงินได้นิติบุคคลที่เพิ่มขึ้นจากผลกำไรของบริษัทย่อยในต่างประเทศ ซึ่งจ่ายภาษีที่อัตราสูงกว่ากำไรจากผลประกอบการของบริษัทในประเทศไทย
          ด้านผลประกอบการไตรมาสที่ 4 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้เท่ากับ 443.0 ล้านบาท ลดลง 13% จากกำไรในรอบระยะเวลาบัญชีเดียวกันของปี 2549 ซึ่งเท่ากับ 509.8 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขายในรูปเงินเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 22% จากไตรมาสเดียวกันในปี 2549 และมีรายได้จากการขายในรูปเงินบาทเท่ากับ 15,253.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนซึ่งเท่ากับ 13,495.6 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นในทุกผลิตภัณฑ์