บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ชี้แจงกรณีมีกระแสข่าวว่า สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนสุวรรณภูมิพัฒนา จำกัด ซึ่งได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงการเข้าซื้อรถยนต์ไฟฟ้า จากกลุ่มบริษัทจำนวน 3,500 คัน ได้ยกเลิกข้อตกลงว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
ทั้งนี้ คณะผู้บริหารและทีมงานของกลุ่มพลังงานบริสุทธิ์ และสหกรณ์ฯ ได้ร่วมมือกันวางแผน และเตรียมการโดยใกล้ชิดด้วยสัมพันธภาพอันดี โดยบริษัทมีแผนที่จะเริ่มทำการผลิตและส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น "MINE SPA1" ได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2563 เป็นต้นไป จนครบทั้งจำนวน ตลอดจนการผลิตและส่งมอบให้ลูกค้ารายอื่น ๆ ที่ได้จองสิทธิไว้ด้วยเช่นกัน
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA กล่าวว่า ข่าวลือที่ออกมาไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ทุกอย่างยังคงเดินหน้าตามแผน
โครงการดังกล่าว บริษัท ไมน์ โมบิลิตี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MMC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ EA ถือหุ้นสัดส่วน 99.99%ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนสุวรรณภูมิพัฒนา จำกัด กลุ่มผู้ให้บริการรถยนต์รับจ้าง (รถแท็กซี่) เพื่อตกลงให้จองสิทธิซื้อรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle หรือ EV) และอะไหล่ จำนวน 3,500 คัน โดยจะนำไปจดทะเบียนเป็นรถยนต์รับจ้าง เพื่อจำหน่ายให้กับสมาชิกของสหกรณ์ อีกทั้งยังตกลงใช้บริการชาร์จไฟฟ้าจากสถานีชาร์จของกลุ่ม EA ที่ได้ลงทุนเตรียมไว้อำนวยความสะดวกล่วงหน้าแล้วภายใต้ชื่อสถานีชาร์จ EA Anywhere ยังคงเดินหน้าตามแผนงานที่วางเอาไว้
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าร่วมโครงการนี้ จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์ MINE รุ่น SPA 1 รถครอบครัวขนาด 5 ที่นั่ง ผลิตด้วยวัสดุที่มีน้ำหนักเบา เสริมความแข็งแรงด้วยอลูมิเนียมแพลตฟอร์ม อัตราความเร็วสูงถึง 140 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ใช้แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนขนาด 30 kWh พร้อมเทคโนโลยี STOBA ช่วยป้องกันการลัดวงจรจากภายในเซลแบตเตอรี่ สาเหตุหลักของการเกิดไฟไหม้ สามารถขับเคลื่อนให้วิ่งได้ระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง โดยใช้เวลาชาร์จเพียง 15 นาที ด้วยระบบการชาร์จ แบบ Quick Charge ของ EA Anywhere ที่เปิดให้บริการกระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดต่างๆ แล้ว จึงเหมาะสำหรับการนำมาให้บริการผู้โดยสารด้วยต้นทุนพลังงานที่ลดลงกว่าเดิม อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาต่ำมากเนื่องจากการเปลี่ยนรูปแบบการขับเคลื่อนจากเดิมที่ใช้เครื่องยนต์และขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ มาเป็นการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ที่ไม่จำเป็นต้องมีเครื่องยนต์อีกต่อไป เสริมด้วยการบริการหลังการขายที่เตรียมการไว้แล้ว
"เราทำงานร่วมกับทางสหกรณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อทำให้แผนการผลิตและส่งมอบสอดรับกันทั้ง 2 ฝ่าย โดยคาดว่าจะเริ่มทำการส่งมอบรถได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปี 2563 เป็นต้นไป ซึ่งจะรวมทั้งการผลิตและส่งมอบให้ลูกค้ารายอื่นๆ ที่จองเข้ามาด้วยเช่นกัน" นายอมร กล่าว