บมจ.เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น (PACE) แจ้งว่าเมื่อวันที่ 8 พ.ย. บริษัทได้ทำสัญญาจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท วาย แอล พี จำกัด (YLP) ซึ่งประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทั้ง 100% ในราคา 348,567,548 บาท โดยแบ่งจำหน่าย 1,257,999 หุ้น หรือ 74% ให้กับบมจ.บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป BROOK และจำหน่ายส่วนที่เหลือ 441,999 หุ้น ให้กับบริษัท เอ็ม ซี แอล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด
การจำหน่ายหุ้น YLP ออกไปดังกล่าวจะทำให้บริษัทสามารถลดภาระหนี้สินได้ทั้งสิ้น 1,513,298,393 บาท แบ่งเป็น หนี้สินของ PFR ที่มีอยู่กับผู้ซื้อจำนวน 348,567,548 บาท หนี้สินของ YLP ที่มีอย่กับธนาคารกสิกรไทย (KBANK) จำนวน 686,179,283 บาท และหนี้สินอื่น ๆ จำนวน 478,551,562 บาท ขณะเดียวกันบริษัทจะรับรู้กำไรในงบการเงินรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 34,731,343 บาท
การจำหน่ายเงินลงทุนใน YLP นั้น เป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างทางการเงินเท่านั้น บริษัทยังคงมีกิจการที่ยังคงเหลืออยู่ทั้งในส่วนของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์คือโครงการนิมิต หลังสวน และ โครงการมหาสมุทร และในส่วนของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ดีน แอนด์ เดลูก้า ซึ่งบริษัทกำลังดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อพัฒนาโครงการให้แล้วเสร็จต่อไป
ด้าน BROOK แจ้งว่าเมื่อวันที่ 8 พ.ย. บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นสามัญเดิมของ YLP จาก PACE จำนวน 1,257,999 หุ้น คิดเป็น 74% ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมดของ YLP ในราคาหุ้นละ 203.69 บาท รวมมูลค่าที่ชำระ 256,243,013.73 บาท
YLP ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ที่ผ่านมาเคยดำเนินโครงการศาลาแดง เรสซิเดนเซส 25 ชั้น จำนวน 132 ยูนิต มูลค่ารวม 2,300 ล้านบาท และปัจจุบันกำลังพัฒนาอาคารที่อยู่อาศัย วินด์เชลล์ นราธิวาส 28 ชั้น แบบเพดานสูง 2 เท่า จำนวน 36 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยรวม 31,034 ตารางเมตร (พื้นที่ขาย 18,476 ตารางเมตร) มูลค่าโครงการรวมประมาณ 2,800 ล้านบาท
โดยโครงการวินด์เชลล์ นราธิวาส มีแหล่งเงินกู้ที่มีเงินพอเพียงที่จะใช้ดำเนินการก่อสร้างให้เสร็จ ซึ่งปัจจุบัน YLP ยังคงได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง นอกจากนี้ บริษัทจะไม่เป็นผู้ค้ำประกันวงเงินกู้ใด ๆ ใน YLP ขณะที่โครงการวินด์เชลล์ นราธิวาส แล้วเสร็จไปประมาณร้อยละ 90 และมีการโอนห้องชุดไปแล้ว 4 ห้อง และโครงการดังกล่าวได้รับใบอนุญาตที่จำเป็นไปแล้ว
การเข้าทำรายการดังกล่าวเป็นการได้รับหุ้นมาเพื่อเป็นการรับชำระคืนเงินกู้และรับรู้รายได้ดอกผลของเงินกู้ ซึ่งเป็นการรักษามูลค่าเงินกู้และผลประโยชน์ที่ควรได้รับให้อยู่ในรูปของหุ้นของบริษัท YLP ซึ่งถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีตัวตน
ทั้งนี้ ณ ปัจจุบันบริษัท เป็นเจ้าหนี้เงินกู้ของบริษัท เพซ ฟู้ด รีเทล จำกัด (PFR) รวมทั้งสิ้น 256,243,013.73 บาท (รวมเงินต้นและดอกเบี้ยค้างรับถึงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2562) โดยที่ PFR เป็นบริษัทย่อยของ PACE