นายนิติพัทญ์ ยงค์สงวนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มิตรสิบ ลิสซิ่ง (MITSIB) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/62 มีกำไรสุทธิ 18.69 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 14.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.6% ส่งผลให้งวด 9 เดือนแรกมีกำไรสุทธิรวม 54.80 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิรวม 50.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.13% เป็นผลจากการที่บริษัทสามารถลดต้นทุนทางการเงิน (Cost of Fund) ลงหลังจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อไตรมาส 2/62 ที่ผ่านมา
สำหรับช่วง 9 เดือนแรกของปี 62 บริษัทมีรายได้จากสัญญาเช่าซื้อตามงบการเงินจำนวน 141.91ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากจำนวนสัญญาที่บริษัทปล่อยสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าบริษัทจะประสบกับสภาวะรถยนต์วัตถุดิบ (Toyota Altis) ขาดตลาดในช่วงเดือน ก.ย.62 สืบเนื่องมาจากการเปลี่ยนโฉมรถยนต์จากทางผู้ผลิตฯ แต่ผลการดำเนินงานยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/62 คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่องตามที่ทางบริษัทตั้งเป้าหมายไว้จากสภาวะรถยนต์วัตถุดิบกลับคืนสู่สภาวะปกติ ทางบริษัทได้เร่งขยายการบริการสินเชื่อรถยนต์สาธารณะและสินเชื่อประเภทอื่นๆ อาทิ เครื่องจักรหนัก รถบรรทุก รถตู้สาธารณะรถโดยสารขนาดใหญ่ และการรับซื้อลูกหนี้การค้า (Factoring) ประกอบกับ จะมีการเปิดสาขาใหม่ของบริษัทลูก บจก.มิตรสิบ เสกเงิน อีก 5 สาขา ที่ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายนิติพัทญ์ กล่าวว่า แผนการดำเนินงานในปี 63 บริษัทตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเพิ่ม 1,500 สัญญา โดยต้องการขยายธุรกิจสินเชื่อรถยนต์สาธารณะประเภทอื่นๆ ควบคู่กับการรับซื้อลูกหนี้การค้า (Factoring) ให้มีสัดส่วนในพอร์ตที่มากขึ้น โดยมีเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อรวมกันทุกประเภทที่ 800 ล้านบาท
ส่วนแผนในอีก 3 ปีข้างหน้า (63-65) บริษัทตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์สาธารณะประเภทแท็กซี่ไว้ที่ 5,000 สัญญา ทำให้คาดได้ว่าบริษัทฯจะสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ของอุตสาหกรรมได้
ณ วันที่ 30 ก.ย.62 บริษัทมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 333,500,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 667,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 50 สตางค์ บริษัทได้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนครั้งแรกในวันที่ 11 มิ.ย.62