นายวิทยา เชียงอุทัย ผู้จัดการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์และวางแผนกลยุทธ์ บมจ.บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี (BJCHI) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปี 63 จะขึ้นแตะระดับ 3,300 ล้านบาท โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการรอผลประมูลงานเหมืองแร่ในประเทศออสเตรเลีย มูลค่าราว 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานที่มีโอกาสชนะการประมูลมากกว่า 50% โดยจะรู้ผลการประมูลงานในช่วงไตรมาส 1/63 และหากได้รับงานก็จะสามารถรับรู้รายได้ในทันที
แต่อย่างไรก็ตามหากไม่สามารถชนะงานประมูลโครงการเหมืองแร่ดังกล่าวได้ บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ใกล้เคียงกับปี 62 ที่คาดจะสามารถทำรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 2,300 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) ราว 3,500 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการประมูลงานใหม่มูลค่า 12,000 ล้านบาท โดยจะทยอยรู้ผลการประมูลงานตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1/63 เป็นต้นไป
"เราอยู่ระหว่างการลุ้นผลการประมูลงานเหมืองในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นงานขนาดใหญ่ในรอบ 2 ปี มูลค่าราว 1,000 ล้านบาท และเป็นงานที่มีโอกาสที่จะได้มากกว่า 50% เนื่องจากเรามีประสบการณ์ในการทำงานให้แก่ลูกค้าในอุตสาหกรรมก๊าซฯ จากมูลค่างานทั้งหมดที่เตรียมเข้าประมูลทั้งหมดราว 12,000 ล้านบาท แต่หากไม่ได้งานนี้เราก็คาดว่ารายได้จะทรงตัวจากปีนี้"นายวิทยา กล่าว
นายวิทยา กล่าวว่า สำหรับปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 15-20% หลัง 9 เดือนแรกของปีนี้ทำได้แล้ว 17.60% จากปีก่อนที่ติดลบอยู่ที่ 6.71% เนื่องจากปริมาณงานที่ออกมามากขึ้น หลังจากที่อุตสาหกรรมเหมืองแร่ในประเทศออสเตรเลียกำลังฟื้นตัว ผู้พัฒนาโครงการรายใหญ่ของบริษัทเพิ่มงบการลงทุนในการพัฒนาโครงการมากขึ้น ส่งผลให้สามารถรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้นด้วย
ด้านนายหยัง เจิน ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ BJCHI เปิดเผยว่า มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 62-63 จะกลับมาเติบโตอย่างโดดเด่นอีกครั้ง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ก๊าซฯ และเหมืองแร่ที่ฟื้นตัว ส่งผลให้มีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ล่าสุดได้รับงานใหม่เพิ่มเติมในโครงการ Santos ซึ่งเป็นโครงการจากลูกค้ารายเดิมจากการที่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมก๊าซฯที่ประเทศออสเตรเลียมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง
ขณะผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาส 9 เดือนแรกปีนี้ มีรายได้รวม 1,603 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 104% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 22 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 160 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากงานในมือที่เพิ่มขึ้นทั้งจากงานในต่างประเทศและในประเทศ ซึ่งถือเป็นการพลิกกลับมามีกำไรอีกครั้งในรอบ 3 ปี จากงานในมือที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ BJCHI ยังมีกระแสเงินสดในมือเกือบ 1,000 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ในระดับที่ต่ำเพียง 0.21 เท่า