บมจ.บูทิค คอร์ปอเรชั่น (BC) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (16 ธ.ค.) อนุมัติการได้มาซึ่งที่ดิน และการพัฒนาโครงการโรงแรม จำนวน 2 โครงการ โดยมีมูลค่าการซื้อที่ดินรวม 420 ล้านบาท ได้แก่ โครงการชายหาดละไม เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี คาดว่าจะลงนามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินที่มีขนาดประมาณ 372 ตารางวา มูลค่าประมาณ 75 ล้านบาท ภายในเดือนธ.ค.62 และโครงการบนถนนสุขุมวิท บริเวณใกล้สถานีรถไฟฟ้านานา กรุงเทพฯ คาดว่าจะลงนามสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน ขนาดประมาณ 363 ตารางวา มูลค่าประมาณ 345 ล้านบาท ภายในเดือนมี.ค.63 โดยทั้ง 2 โครงการจะพัฒนาเป็นโรงแรมภายใต้บริษัทในเครือซึ่งจะจัดตั้งขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ บริษัทเล็งเห็นว่าที่ดินของทั้ง 2 โครงการ มีศักยภาพในการพัฒนาโรงแรมตามเป้าหมายการประกอบธุรกิจของบริษัท โดยจะดำเนินการพัฒนาเป็นโรงแรมภายใต้บริษัทในเครือ ซึ่งบริษัทจะหาผู้ร่วมทุนเพื่อลงทุนในทั้ง 2 โครงการในอนาคตต่อไป
การพัฒนาโครงการสร้าง ดำเนินการ ขาย (Built-Operate-Sell : BOS) 2 โครงการใหม่ ซึ่งเป็นลักษณะการประกอบธุรกิจของบริษัทซึ่งมีเป้าหมายในการพัฒนาโรงแรม ศูนย์การค้า สำนักงานให้เช่า เพื่อดำเนินงานและขาย โดยบริษัทมุ่งเน้นในการพัฒนาโครงการบนที่ดินที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว หัวเมืองสำคัญ หรือบริเวณที่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในเมือง
สำหรับโครงการโรงแรม ชายหาดละไม เกาะสมุย คาดว่าจะพัฒนาเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ประมาณ 129 ห้อง มีต้นทุนโครงการรวมประมาณ 560 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างภายในไตรมาส 3/63 และเริ่มเปิดให้ดำเนินการภายในไตรมาส 2/65 ส่วนโครงการโรงแรม บนถนนสุขุมวิท คาดว่าจะพัฒนาเป็นโรงแรมระดับ 3-4 ดาว ประมาณ 202 ห้อง ต้นทุนโครงการรวมประมาณ 835 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างภายในไตราส 3/63 และเริ่มเปิดดำเนินการภายในไตรมาส 1/65
สำหรับแหล่งเงินลงทุนเพื่อซื้อที่ดินและพัฒนาโครงการในอนาคต จะมาจากเงินกู้ยืมสถาบันการเงินและเงินทุนจากบริษัทและผู้ร่วมทุน
นายปรับชะรันซิงห์ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ BC กล่าวว่า ภาพรวมโครงการของบริษัทปัจจุบัน มีโครงการที่ก่อสร้างเสร็จแล้วและอยู่ระหว่างดำเนินการจำนวน 9 โครงการ มีจำนวนห้องรวม 1,042 ห้อง แบ่งเป็น โครงการที่รอขายในอนาคต (BOS) จำนวน 5 โครงการ และโครงการที่บริษัทมีนโยบายเป็นผู้ดำเนินงานและบริหารจัดการเอง (Non-BOS) 4 โครงการ นอกจากนี้มีโครงการในอนาคตที่อยู่ระหว่างดำเนินการพัฒนาอีก 8 โครงการ จำนวนห้องรวม 969 ห้อง คาดจะทยอยแล้วเสร็จไปจนถึงปี 64
ขณะที่ภาพรวมธุรกิจปี 63 ตั้งเป้าเติบโตต่อเนื่อง วางแผนจะขายโครงการรูปแบบ BOS ไม่ต่ำกว่า 4 โครงการ เนื่องจากบริษัทมีความพร้อมในการลงทุนและพัฒนาโครงการในมือรอไว้อยู่แล้ว เพื่อสร้างความเสถียรภาพของผลประกอบการให้มั่นคงและแข็งแกร่ง จากปีนี้ที่บริษัทขายโครงการออกมาแล้วจำนวน 2 โครงการ ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูงกว่าปีที่ผ่าน ๆ มา ทำได้เฉลี่ยปีละ 1 โครงการ