บมจ.ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (3 ก.พ.) อนุมัติการซื้อหุ้นเพิ่มเป็น 100% ในบริษัทย่อยหลายแห่ง ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ มูลค่ารวมไม่เกิน 196.98 ล้านบาท เพื่อเพิ่มโอกาสการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้น หลังบริษัทย่อยเหล่านั้นได้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว
คณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้บริษัท ซุปเปอร์ โซล่าร์ เอนเนอร์ยี จำกัด (SSE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าทำสัญญาซื้อหุ้นในบริษัท ดับบลิวเอ็กซ์เอ 4 จำกัด (WXA4), บริษัท ดับบลิวเอ็กซ์เอ 5 จำกัด (WXA5), บริษัท ดับบลิวเอ็กซ์เอ 6 จำกัด (WXA6) และ บริษัท ดับบลิวเอ็กซ์เอ 7 จำกัด (WXA7) รวมเรียกว่า WXA 4567 ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท จากผู้ถือหุ้นเดิมใน WXA 4567 จำนวน 2 ราย ได้แก่ บริษัท เอนเนอร์จี แวนเทจ ลิมิเต็ด (Energy Vantage Limited) และนางสาวชัชนันท์ บุญธนาพิบูลย์ รวมเรียกว่า "กลุ่มผู้ขาย" ในสัดส่วน 51% โดยมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 190 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการเข้าทำรายการจะทำให้ SSE ถือหุ้นทั้ง 100% ใน WXA4567 จากเดิม SSE ถือหุ้นใน WXA4567 ในสัดส่วน 49%
ทั้งนี้ WXA4, WXA5, WXA6 และ WXA7 ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ บริษัทละ 1 โครงการ กำลังการผลิตโครงการละ 4.95 เมกะวัตต์ (MW) รวม 4 โครงการ กำลังการผลิตรวม 23.80 เมกะวัตต์ และได้ดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.59
นอกจากนี้คณะกรรมการยังอนุมัติ ให้บริษัท กรีน ไบ-โอ มหาสารคาม จำกัด (GBOM) ซึ่งถือหุ้น 100% โดย SSE เข้าทำสัญญาซื้อหุ้นใน บริษัท พีเคที กรีน จำกัด (PKTG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท จากนางกนกธร วงษ์ศิริ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมใน PKTG ในสัดส่วน15% โดยมีมูลค่าไม่เกิน 6.98 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการเข้าทำรายการจะทำให้ GBOM ถือหุ้น 100% ใน PKTG จากเดิม 85%
PKTG เป็น "ผู้สนับสนุนโครงการ" ในการดำเนินการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร ระยะที่ 2 จำนวน 1 โครงการ กำลังการผลิต 4 เมกะวัตต์ และได้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.61
การซื้อหุ้นในบริษัทย่อยของบริษัทในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มโอกาสในการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้น เพิ่มอำนาจการควบคุมและความคล่องตัวในการบริหาร และลดความขัดแย้งทางผลประโยชน์กับกลุ่มผู้ถือหุ้นกลุ่มอื่น
นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ ของ SUPER กล่าวว่า การเข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมจากผู้ถือหุ้นเดิม เป็นไปตามนโยบายของบริษัทที่จะถือหุ้นเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้บริษัทซึ่งเป็นบริษัทแม่สามารถรับรู้ผลประโยชน์ได้มากขึ้นเพิ่มเติมจากเดิม
นอกจากนั้นแล้ว บริษัทยังมีความมั่นใจว่า แนวโน้มธุรกิจในปีนี้จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการรับรู้รายได้จากโครงการที่เพิ่มขึ้น ทั้งโซลาร์ฟาร์มเวียดนาม ที่ COD ไปแล้ว รวมทั้งโครงการในประเทศ โดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะที่จังหวัดสระแก้ว และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากขยะชุมชนที่ จังหวัดพิจิตร ขนาดกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ ที่คาดว่าจะ COD ในช่วงปลายเดือน ก.พ.นี้ โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20-25% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่ยอด COD ในปีนี้คาดว่าจะแตะที่ระดับ 1,200 เมกะวัตต์