บมจ.ดุสิตธานี (DTC) แจ้งเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 บริษัทได้ลงนามในสัญญาร่วมลงทุนกับ Metro Pacific Investments Corporation (MPIC) เพื่อร่วมพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรมและคอนโดมิเนียมเพื่อที่พักอาศัยในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท ครั้งที่ 13/2562 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2562
MPIC เป็นบริษัทที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนใน The Philippine Stock Exchange และเป็นผู้พัฒนาโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ในประเทศฟิลิปปินส์ เช่น โรงไฟฟ้า ทางหลวง (Toll Roads) การประปา และรถไฟรางเบา (Light Rail) เป็นต้น ทั้งนี้ MPIC ประสงค์ที่จะลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรมและคอนโดมิเนียมที่พักอาศัย และหาผู้ร่วมทุนที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรมและคอนโดมิเนียมที่พักอาศัย
บริษัทจึงเห็นว่าการร่วมลงทุนกับ MPIC ในครั้งนี้จะทำให้เกิดประโยชน์เกื้อหนุนร่วมกัน(Synergy) และเป็นการสร้างกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทเนื่องจากเป็นการผสมผสานความเชี่ยวชาญของทั้งบริษัทและ MPIC ในการพัฒนาโครงการดังกล่าวและก่อให้เกิดการเติบโตทางธุรกิจของบริษัทที่ต่อเนื่องและมั่นคงในอนาคต
ในการร่วมลงทุนกับ MPIC ในครั้งนี้บริษัทและบริษัทย่อยของบริษัทจะดำเนินการดังต่อไปนี้
1. จัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศฟิลิปปินส์ ได้แก่ Dusit Philippines Corporation (DPC) เพื่อประกอบกิจการเป็น Holding Company ของบริษัทในประเทศฟิลิปปินส์ โดยบริษัทจะถือหุ้นใน DPC ร้อยละ 100 นอกจากนี้ ในเบื้องต้น DPC จะมีทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้วเบื้องต้นประมาณ 0.352 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 10.91 ล้านบาท) ซึ่งบริษัทคาดว่าจะจัดตั้ง DPC แล้วเสร็จภายใน ไตรมาส 2/2563
2.เมื่อจัดตั้ง DPC เรียบร้อยแล้ว บริษัทจะดำเนินการปรับโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทย่อยและบริษัทในเครือในประเทศฟิลิปปินส์ โดยจัดให้มีการโอนหุ้นทั้งหมดที่ Dusit Thani Properties Co., Ltd. (DTPC) (บริษัทย่อยของบริษัท) ถือใน Dusit Thani Philippines, Inc. (DTPI) (บริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัทในประเทศฟิลิปปินส์) ในสัดส่วนร้อยละ 88.01 ของหุ้นทั้งหมดใน DTPI ให้แก่ DPC รวมทั้งดำเนินการให้ DPC ซื้อหุ้นส่วนที่เหลือจำนวนร้อยละ 11.99 ของ DTPI จากผู้ถือหุ้นอื่น ซึ่งจะส่งผลให้ DPC ถือหุ้นใน DTPI ทั้งหมดในสัดส่วนร้อยละ 100 ภายหลังการปรับโครงสร้าง
3. DPC และบริษัทย่อยของ MPIC ได้แก่ Metro Vantage Properties, Inc. (MVPI) จะร่วมลงทุนในบริษัทในประเทศฟิลิปปินส์ จำนวน 2 บริษัท ได้แก่
(ก) Metro Dusit, Inc. (MDI) โดยจะมีทุนจดทะเบียนเบื้องต้น จำนวน 1,605,000,000 เปโซฟิลิปปินส์ (หรือ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 979.05 ล้านบาท) ซึ่ง DPC จะเข้าถือหุ้นร้อยละ 40 และ MVPI จะถือหุ้นส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 60 โดย MDI จะประกอบธุรกิจเป็นผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ ในประเทศฟิลิปปินส์ โดยเฉพาะ โครงการโรงแรม และโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อที่พักอาศัย
(ข) Dusit Hospitality Management Corporation (DHM) โดยจะมีทุนจดทะเบียนเบื้องต้นจำนวน 10,000,000 เปโซฟิลิปปินส์ (หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 6.10 ล้านบาท) ซึ่ง DPC จะเข้าถือหุ้นร้อยละ 76 และ MVPI จะถือหุ้นส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 24 โดย DHM จะประกอบธุรกิจเป็นผู้ให้บริการบริหารจัดการโรงแรม และโครงการอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ ในประเทศฟิลิปปินส์โดยจะรับบริหารจัดการโครงการต่าง ๆ ของ MDI และของผู้ประกอบธุรกิจอื่น ๆ และรับบริหารโรงแรมของบริษัทที่อยู่ในประเทศฟิลิปปินส์ทั้งหมด
4. ในการเข้าถือหุ้นใน MDI ตามข้อ 3(ก) ข้างต้น DPC จะดำเนินการโอนหุ้นทั้งหมดใน DTPI คิดเป็นร้อยละ 100 ให้แก่ MDI เพื่อเป็นการชำระเงินลงทุน (ค่าหุ้น) ใน MDI แทนการชำระด้วยเงินสด (Share Swap) และ MPIC จะโอนเงินสดให้แก่ MDI ที่จะใช้สำหรับซื้อที่ดินที่จะใช้ในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของ MDI จากบริษัทในเครือของ MPIC และส่วนที่เหลือจะใช้สำหรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของ MDI
การเข้าร่วมลงทุนกับ MPIC ดังกล่าวข้างต้น มีเงื่อนไขที่สำคัญว่า (ก) DTPI จะต้องขายหุ้นใน Dusit Hospitality Education, Inc. (DHMC) จำนวน 3,599,997 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 40.00 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ DHMC ให้แก่ผู้ซื้อให้แล้วเสร็จ ซึ่งในปัจจุบัน DTPI ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ซื้อ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/2563
และ (ข) บริษัท และ MPIC จะต้องได้รับความเห็นชอบจาก Philippine Competition Commission (PCC) ในการร่วมลงทุนครั้งนี้ ซึ่งบริษัทคาดว่าเงื่อนไขดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2563 และ (ค) เงื่อนไขบังคับก่อนอื่นๆ ในสัญญาได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยการเข้าร่วมลงทุนกับ MPIC ในครั้งนี้จะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2563 ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเกี่ยวกับโครงการการร่วมลงทุนกับ MPIC ในประเทศฟิลิปปินส์ บริษัทจะแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และนักลงทุนให้ทราบต่อไป