นายบุญชัย สุวรรณวุฒิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ผลธัญญะ (PHOL) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 63 เติบโต 10-15% จากปีก่อน โดยธุรกิจหลักกลุ่มสินค้าและบริการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (Safety) จะขยายตัวดีต่อเนื่อง จากการลงทุนและขยายงานในภาคอุตสาหกรรมและหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งมีความจำเป็นต้องการใช้อุปกรณ์ป้องกันภัยที่ได้มาตรฐานเป็นจำนวนมาก ประกอบกับพฤติกรรมของลูกค้าให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น โดยสินค้ากลุ่มเซฟตี้มีการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีตามยุคสมัยตลอดเวลา เพื่อการนำเสนอสินค้าที่ได้มาตรฐาน และการบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพ บริษัทจึงให้ความสำคัญในการศึกษาและคัดสรรสินค้าใหม่ ๆ ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม อีกทั้ง เป็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้าเพิ่มเติม
ด้านธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าเพื่อการควบคุมสภาพแวดล้อม มุ่งเน้นการพัฒนาปรับปรุงสินค้าใหม่ เพิ่มเติมรายการสินค้า เพื่อรองรับการใช้งานของลูกค้าแต่ละราย สำหรับธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าและบริการด้านระบบบำบัดน้ำเพื่ออุปโภคหรือบริโภค คาดปีนี้จะเห็นการเติบโตที่ชัดเจนยิ่งขึ้น จากการให้บริการโครงการระบบน้ำในกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมเป็นหลัก มีปัจจัยสนับสนุนจากลูกค้าที่มีแนวโน้มให้ความสำคัญในด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น ทั้งเรื่องการดูแลบำบัดน้ำเสีย และการทำระบบรีไซเคิลน้ำเพื่อลดต้นทุนและแก้ปัญหาภัยแล้ง และจากการปูฐานเจาะกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมตั้งแต่ปี 62 เป็นต้นมาส่งผลให้ลูกค้ารู้จักและเลือกใช้บริการกับบริษัทมากขึ้น
สำหรับผลประกอบการปี 62 บริษัทมีรายได้จากการขายและให้บริการรวมอยู่ที่ 911.85 ล้านบาท ลดลง 1.36% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากบริษัทลดสัดส่วนงานก่อสร้างในธุรกิจด้านระบบน้ำ ขณะที่ธุรกิจหลักเซฟตี้ ยังมีการเติบโต ถึงแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและงบประมาณภาครัฐล่าช้า อย่างไรก็ตาม กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 236 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.68% และมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นอยู่ที่ 25.88% เนื่องจากต้นทุนสินค้าลดลง จากค่าเงินบาทแข็งค่า และไม่มีต้นทุนส่วนเกินจากงานก่อสร้าง
รวมถึงค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง ส่งผลให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 41.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 13.44% และมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 4.49%
ปี 62 กลุ่มเซฟตี้มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 78.90% ของรายได้จากการขายและให้บริการทั้งหมด เติบโตจากปีก่อนเล็กน้อย จากลูกค้าหน่วยงานราชการและลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ด้านธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าเพื่อการควบคุมสภาพแวดล้อม (CE) มีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 18.42% ลดลงตามตลาดการส่งออกในลูกค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ลดอัตรากำลังการผลิต เนื่องจากได้รับผลกระทบสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ สำหรับธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าและบริการด้านระบบบำบัดน้ำเพื่ออุปโภคหรือบริโภค (WATER) มีสัดส่วนอยู่ที่ 2.68% โดยมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการติดตั้งโครงการระบบน้ำในกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น ขณะที่มีนโยบายงดรับงานก่อสร้าง รายได้รวมในธุรกิจน้ำจึงลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน