นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมืองไทย แคปปิตอล (MTC) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทเริ่มใช้มาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่เป็นลูกหนี้ทุกประเภทปัจจุบันมีกว่า 2 ล้านรายที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในไทยตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ล่าสุดมีลูกค้าเข้ามายื่นข้อมูลผ่านช่องทางได้ทุกสาขาของบริษัทและลงทะเบียนช่องทางออนไลน์เป็นจำนวนหลายรายแล้ว
มาตรการช่วยเหลือลูกค้าครั้งนี้บริษัทวางไว้ 2 แนวทางคือกรณีลูกค้าที่มีรายได้ลดลงแต่ยังสามารถผ่อนชำระได้บางส่วน บริษัทช่วยลดค่าผ่อนชำระลงอย่างน้อย 30% ต่อยอดที่ต้องชำระเดิมแต่ละงวดเป็นระยะเวลา 3-6 เดือน และกรณีผู้ที่ขาดรายได้เพราะตกงานหรือมีอาชีพมอเตอร์ไซค์รับจ้าง,แท็กซี่ เป็นต้น บริษัทใช้มาตรการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 เดือน
สำหรับแนวทางการบริหารสภาพคล่องในช่วงภาวะวิกฤตโควิด-19 บริษัทยืนยันว่ามีกระแสเงินสดและสภาพคล่องเพียงพอกับการดำเนินงานในช่วงถัดไป เนื่องจากล่าสุดบริษัทได้รับสิทธิวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) จากธนาคารออมสินประมาณ 6 พันล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2% เป็นไปตามเงื่อนไข ธปท.กำหนดไว้เพื่อเป็นทุนสำรองและปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจาก 22% มาเป็น 20.5% เพื่อใช้ในมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ดังกล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังมีศักยภาพระดมทุนด้วยการออกหุ้นกู้ได้อีกวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท เนื่องจากฐานะทางการเงินบริษัทในปัจจุบันค่อนข้างแข็งแกร่งมีระดับหนี้สินต่อทุน (D/E) ไม่เกิน 3 เท่าต่ำกว่าเพดาน 4.5 เท่า ล่าสุดคณะกรรมการบริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ในเดือน พ.ค. แต่ต้องรอความชัดเจนเรื่องวงเงินที่จะเสนอขายให้กับนักลงทุนทั่วไปอีกครั้ง
ขณะเดียวกันมีความพร้อมเรื่องวงเงินสินเชื่อกับสถาบันการเงินในประเทศอีกกว่า 1 หมื่นล้านบาทเป็นเครื่องมือการเงินลักษณะตั๋วสัญญาใช้เงิน ,ตั๋วแลกเงิน (B/E) รวมถึงวงเงินสินเชื่อระยะยาวด้วย
"สภาพคล่องบริษัทไม่มีปัญหาแม้ว่าจะพักชำระหนี้ให้กับลูกค้า แต่ Soft Loan ที่ได้รับมาก็เพียงพอและมีต้นทุนการเงินต่ำช่วยธุรกิจเติบโตในระยะถัดไป ขณะที่ในไตรมาส 2/63 บริษัทไม่มีหุ้นกู้ที่ครบกำหนด แต่จะเริ่มเห็นในไตรมาส 3/63 จำนวน 3 พันล้านบาท และไตรมาส 4/63 จำนวน 3 พันล้านบาท ซึ่งยังมีเวลาให้เตรียมตัวทำให้มีความมั่นใจว่ามีสภาพคล่องเพียงพอชำระหุ้นกู้ที่ถึงกำหนดไถ่ถอนปีนี้จะไม่กระทบถึงขั้นต้องผิดนัดชำระหนี้อย่างแน่นอน"นายชูชาติ กล่าว
แนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ในปีนี้บริษัทยังคงเป้ารักษาระดับไม่ให้เกิน 2% เนื่องจากมาตรการ ธปท. ช่วยเหลือลูกหนี้กรณีพักชำระหนี้ 3 เดือนลูกหนี้รายนั้นก็ยังไม่เข้าข่ายจัดชั้นเป็นหนี้ NPLs ดังนั้นช่วงสั้นจะยังไม่ส่งผลกระทบกับการเร่งตัวของ NPLs ขณะที่ระยะยาวเชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์และกลยุทธ์การบริหารจัดหนี้ NPLs ของบริษัทจะไม่เพิ่มขึ้นกลายเป็นผลกระทบกับผลการดำเนินงานอย่างแน่นอน
นอกจากนั้น บริษัทยังคงเป้ายอดปล่อยสินเชื่อรวมในปีนี้จะเติบโต 20-25% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากแนวโน้มธุรกิจในไตรมาส 1/63 ยังคงเห็นสัญญาณเชิงบวกและคาดจะดีต่อเนื่องในไตรมาส 2/63 ตามแผนเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 600 สาขาในปีนี้และใช้กลยุทธ์บริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับทำการตลาดในลูกค้ากลุ่มใหม่ต่อเนื่อง
อนึ่ง โครงสร้างพอร์ตสินเชื่อรวม MTC ประกอบด้วย สินเชื่อกลุ่มรถจักรยานยนต์ 35% ,รถยนต์ 35% และที่เหลือเป็นสินเชื่อประเภทอื่น อาทิ ที่ดิน เป็นต้น
https://youtu.be/abLlj_8JZz0