บมจ.เอสวีโอเอ (SVOA) แจ้งว่าบริษัทได้รับแจ้งจาก Kyanite Investment Holding Pte. Ltd. (Kyanite) ซึ่งเป็นบริษัทที่มี Temasek Holdings (Private) Limited (Temasek) เป็นผู้ถือหุ้นทางอ้อมในหุ้นทั้งหมดของบริษัทว่า Kyanite ได้ประกาศเจตนาทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์บางส่วนโดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขบังคับก่อน (การทำคำเสนอซื้อบางส่วน (Partial Offer) เพื่อให้ได้มาซึ่งหุ้นสามัญของ Keppel Corporation Limited (Keppel) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นทางอ้อมของบริษัท เมื่อวันที่ 21 ต.ค.62
ทั้งนี้ Kyanite มีความประสงค์ที่จะทำคำเสนอซื้อบางส่วน เพื่อให้ได้มาซึ่งหุ้นสามัญของ Keppel (นอกเหนือจากหุ้นจำนวนที่ kyanite รวมถึงบุคคลที่มีการกระทำการร่วมกัน หรือถือว่ากระทำการร่วมกัน เป็นเจ้าของอยู่แล้วหรือที่อยู่ภายใต้อำนาจควบคุม หรือที่ได้มีการตกลงให้ได้มาโดย Kyanite) ซึ่งเมื่อนับรวมกับหุ้นของ Keppel ที่ Temasek ถืออยู่เดิม จะมีผลทำให้ Kyanite และ Temasak จะมีจำนวนหุ้นรวมกันเป็น 51% ของหุ้นทั้งหมดของ Keppel (โดยไม่นับรวมหุ้นที่ถืออยู่โดย Keppel เอง (Treasury Stock)) ณ วันกำหนดสิทธิเพื่อกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นของ Keppel ที่มีสิทธิได้รับคำเสนอซื้อบางส่วน ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย Singapore Code on Take-overs and Mergers
ปัจจุบัน Keppel เป็นผํ้ถือหุ้นทางอ้อมของบริษัทคิดเป็น 31.94% ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท โดยถือผ่าน Apsilon Ventures Pte. Ltd. และ BNP Paribas Wealth Management Singapore Branch และ Kyanite เป็นบริษัทจำกัดที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายสิงคโปร์ โดยมี Temasek เป็นผู้ถือหุ้นทางอ้อมในหุ้นทั้งหมด โดยจัดตั้งขึ้นเพื่อดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำคำเสนอซื้อบางส่วน โดยความสำเร็จของการทำคำเสนอซื้อบางส่วน ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ ของและ/หรือ การได้รับยกเว้นเงื่อนไขบังคับก่อน (Pre-Conditions) รวมถึงการได้รับการอนุญาตที่จำเป็นจากหน่วยงานต่าง ๆ
หากการทำคำเสนอซื้อบางส่วนสำเร็จลง จะเป็นผลทำให้ Kyanite และ Temasek มีจำนวนหุ้นรวมกันเป็น 51% ของหุ้นทั้งหมดของ Keppel ซึ่งจากการทำคำเสนอซื้อบางส่วนดังกล่าว ไม่ได้มีความประสงี์ที่จะเข้ามาควบคุมการดำเนินธุรกิจของบริษัท และไม่มีความตั้งใจที่จะกระทำการใดที่กระทบหรือเปลี่ยนแปลงการดำเนินกิจการ และการบริหารงานของบริษัทแต่อย่างใด
ในการนี้ Temasek และ Kyanite ได้ขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) และคณะอนุกรรมการวินิจฉัยการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการ เนื่องจากการได้มาซึ่งอำนาจควบคุมอย่างมีนัยสำคัญในนิติบุคคลที่เป็นผู้ถือหุ้นของกิจการ (Chain Principle) ซึ่งการพิจารณาการขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท ขึ้นอยู่กับการพิจารณาและดุลยพินิจของคณะอนุกรรมการวินิจฉัยการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อการครอบงำกิจการ
บริษัทได้ตรวจสอบกับทางสำนักงาน ก.ล.ต. และพบว่าคำขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท ได้ยื่นต่อสำนักงานก.ล.ต. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุญาตตามคำขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทดังกล่าว
ในการนี้ บริษัทจะติดตามความคืบหน้าในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และจะดำเนินการตามความเหมาะสมในการรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ และนักลงทุนเพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยปัจจุบัน คำขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทดังกล่าว ไม่มีผลกระทบต่อการบริหารงานและโครงสร้างการจัดการของบริษัทแต่อย่างใด