บมจ.แพลน บี มีเดีย (PLANB) แจ้งว่าตามที่สำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้เปิดการยื่นข้อเสนอประกวดราคา โครงการให้สิทธิใช้ป้ายประชาสัมพันธ์ของกรุงเทพมหานคร จำนวน 1,170 ป้าย พร้อมปรับปรุงดูแลบำรุงรักษาศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำทางอัจฉริยะ กลุ่ม D จำนวน 691 หลัง (สิทธิใช้ป้ายประชาสัมพันธ์) นั้น บริษัทได้มีการลงนามร่วมกับสำนักงานการจราจรและขนส่ง กทม. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในการริหารจัดการสิทธิใช้ป้ายประชาสัมพันธ์ เป็นเวลาสัญญาทั้งหมด 10 ปี
ทั้งนี้ บริษัทจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนการรับสิทธิใช้ป้ายประชาสัมพันธ์ ตามที่สำนักงานการจราจรและขนส่ง กทม.กำหนดต่อไป
นายปรินทร์ โลจนะโกสินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ PLANB กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะใช้งบลงทุนสำหรับโครงการดังกล่าวไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท โดยโครงการนี้จะทำให้บริษัทมีเครือข่ายสื่อที่แข็งแรงขึ้นในกรุงเทพฯ และเพิ่มโอกาสในการเพิ่มรายได้ปีละไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาสัญญากว่า 10 ปี
สำหรับการลงทุนในโครงการ โดยเฉพาะการปรับปรุงศาลาตามแนวคิดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดยใช้เทคโนโลยีพัฒนาคุณภาพการดำเนินชีวิตของผู้คนหลายล้านคน ประกอบด้วย การติดตั้ง WIFI เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารที่มานั่งรอ , ปรับโฉมศาลารูปแบบใหม่ที่มีจอแสดงเวลาการมาถึงของรถประจำทาง เพื่อแสดงผลพิกัดของรถบริการสาธารณะ และเพิ่มระบบความปลอดภัยด้วยกล้องวงจรปิด CCTV เพื่อเป็นส่วนหนึ่งการสร้างสาธารณะประโยชน์
ทั้งนี้ บริษัทเชื่อว่าอุตสาหกรรมโฆษณาในประเทศไทยจะกลับมาเติบโตได้อย่างต่อเนื่องหลังผ่านสถานการณ์โควิด-19 โดยจะเกิดความสมดุลระหว่างสัดส่วนเม็ดเงินของ 3 สื่อหลักมากขึ้น ทั้งสื่อทีวี ออนไลน์ และสื่อนอกบ้าน จากปัจจุบันที่สื่อทีวีครองงบโฆษณาสูงสุด มีสัดส่วนกว่า 50% โดยในปัจจุบันบริษัทมีเครือข่ายทางสื่อนอกบ้านที่แข็งแรงที่สุด ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ
นอกจากนี้เพื่อต่อยอดการเติบโตอย่างมั่นคง บริษัทเห็นว่าการทำการตลาดในอนาคตควรมีการพัฒนาคอนเทนต์ที่น่าสนใจ ผ่านการเพิ่มช่องทางการตลาดแบบมีส่วนร่วมผ่านกีฬา Artist Management และเกมออนไลน์ และช่วยให้เจ้าของสินค้าสามารถสื่อสารเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายผ่านช่องทางทั้ง online และ offline รวมถึงสื่อนอกบ้านแบบครบวงจรของบริษัท
โดยในปีนี้นอกเหนือจากโครงการป้ายรถเมล์อัจฉริยะ Smart Bus Shelter แล้ว บริษัทก็จะมีการเร่งติดตั้งสื่อในร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven อีก 1,500 สาขา เพื่อเพิ่มการเข้าถึงผู้บริโภคในจุดที่เป็น point of sale และร่วมพัฒนาการวัดผล (Measurement) เพื่อเพิ่มมูลค่าของสื่อที่มีด้วยการร่ามกับบริษัท Telco ทำการวิจัยเชิงลึกจาก Cellular Data มาวัดประสิทธิภาพการเข้าถึงของสื่อและต่อยอดพัฒนาระบบการวางแผนสื่อในการเชื่อมต่อพฤติกรรมผู้บริโภคระหว่าง Online และ Offline (O2O) เข้าด้วยกัน
นายปรินทร์ กล่าวว่า แม้การระบาดของไวรัส-19 จะกระทบต่อธุรกิจคอนเทนต์ในระยะสั้น โดยทำให้โอลิมปิกโตเกียว 2020 การแข่งขันฟุตบอล Thai League และทีมชาติ และการเลือกตั้ง BNK48 ถูกเลื่อนออกไป แต่บริษัทยังได้รับความมั่นใจจากคู่ค้าด้วยการร่วมมือสนับสนุนทุกรายการต่อเนื่องและมุ่งเน้นในการบริหารสิทธิการทำการตลาดให้เกิดประโยน์สูงสุด เช่น การสร้างกระแสการแข่งขันโอลิมปิกและพัฒนาคอนเทนต์ได้ยาวขึ้นไปจนถึงปี 64 และต่อด้วย Asian Game 2022 เพื่อสนับสนุนทัพนักกีฬาไทยอย่างต่อเนื่อง ,ปรับปฏิทินการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ Thai League ให้ตรงตามฤดูกาลแข่งขันแบบยุโรปเพื่อเลี่ยงการแข่งขันในหน้าฝนเพื่อคุณภาพการแข่งขันที่ดีขึ้นและเพิ่มปริมาณคนดูในสนาม
ตลอดจนเร่งการสร้างประสบการณ์ระหว่างแบรนด์ผ่าน Content Partner ใหม่เช่น The Ska และไอดอลเกาหลีวง iKON ค่าย YG Entertainment ที่เพิ่มการเข้าถึงผู้บริโภคกับกลุ่มเป้าหมายที่กว้างและตรงจุดมากขึ้น โดยในสัปดาห์ที่ผ่านธุรกิจ Artist Management ของบริษัทได้มีการจัดการเลือกตั้ง BNK48 General Election ของปี 63 ที่ได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีซึ่งตอกย้ำความเหนียวแน่นและความรักของแฟนคลับที่มีให้สมาชิกผ่านการลงคะแนนกว่า 170 ล้านบาท มียอด concurrent view ถ่ายทอดสดกว่า 2 แสน view
สำหรับธุรกิจ E-sport และเกมส์ออนไลน์ บริษัทได้ขยายการแข่งขัน E-league ที่รับสมัครผู้เล่นจากทั่วประเทศและต่อยอดการจัดการแข่งขัน Thai E-League Pro ผ่านเกมส์ PES2020 ผ่านการร่วมมือกับบริษัทเกมชั้นนำอย่าง Konami นอกจากนี้ยังได้เปิดให้บริการเกม Samkok Moe ซึ่งมียอดดาวห์โหลดกว่า 2 แสนครั้ง พร้อมสร้างรายได้กว่า 4 ล้านบาทหลังจากเปิดตัวเพียงแค่ 4 อาทิตย์
"แม้การระบาดของไวรัส-19 จะส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมโฆษณาทั่วโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บริษัทยังคงเลือกลงทุนอย่างต่อเนื่องในโครงการที่ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าในระยะยาวและใช้เวลานี้พัฒนาบุคลากรของบริษัท เพื่อเพิ่มมาตรฐานการให้บริการที่ดีต่อคู่ค้า ด้วยสถานะการเงินที่แข็งแรง บริษัทมีความพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนในสถานการณ์ปัจจุบันและมั่นใจว่าจะฟื้นตัวกลับมาเติบโตอย่างมั่นคงทันทีที่สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ"นายปรินทร์ กล่าว