บมจ.ดีโอดี ไบโอเทค (DOD) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (29 เม.ย.) รับทราบการลาออกจากตำแหน่ง กรรมการบริษัท รองประธานกรรมการบริษัท ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของนายธนา รังสิกุล โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.63 เป็นต้นไป
พร้อมทั้งแต่งตั้งนายธนิน ศรีเศรษฐี เข้าดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ด้วย โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.63 เป็นต้นไป
นายธนิน มีประวัติการทำงานในการนำพาองค์กรภายใต้กลุ่มบริษัทจีพี ซึ่งเป็นบริษัท Holding Company เข้าลงทุนในกิจการชั้นนำระดับภูมิภาคเอเชียครอบคลุมหลากหลายธุรกิจมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้แก่ บมจ.เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ (MEGA), บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL) , บมจ.คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) (CNT) และบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้แก่ บริษัทเอ็มเจ็ท ประกอบธุรกิจสายการบินส่วนตัว "MJETS"
นายธนิน ยังมีความเชี่ยวชาญงานด้านการตลาดโดยเฉพาะการวางกลยุทธ์ขยายงานในตลาดต่างประเทศ ให้กับองค์กรชั้นนำหลายแห่ง เช่น Rockwell FirstPoint Contact (Illinois, USA) และ Natural Insulation (Thailand) มีผลงานโดดเด่นในการขยายธุรกิจเซลลูโลส และอินซูเลชั่น ให้เป็นที่รู้จักในตลาดประเทศออสเตรเลีย,จีน,อินเดีย,อินโดนีเซีย,มาเลเซีย และสิงคโปร์
พร้อมกันนี้ นายธนิน ยังเคยได้รับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Krescon เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการออกแบบวิศวกรรมและก่อสร้างโครงการลักษณะจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ (Turnkey Project) ได้รับงานประมูลขนาดใหญ่หลายโครงการที่ก่อสร้างในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออกของประเทศ
นางสาวสุวารินทร์ ก้อนทอง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ของ DOD เปิดเผยว่า ด้วยประสบการณ์การเป็นผู้นำบริหารองค์กรระดับโลกอย่างมืออาชีพของนายธนิน บริษัทเชื่อมั่นว่าจะเข้ามานำพาองค์กร เพื่อก้าวขึ้นสู่การเป็นบริษัทชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย และมุ่งสู่ระดับโลก ซึ่งสอดรับกับแนวทางพัฒนาการให้บริการในรูปแบบ One Stop Service Solution สู่การเป็นผู้นำธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ ทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสกินแคร์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แบบครบวงจร ในระดับภูมิภาคเอเชีย (Regional) และไปสู่ระดับโลก (Global) ในอนาคต
ด้านนายธนิน กล่าวว่า การเข้ามารับช่วงต่องานใน DOD ครั้งนี้ ถือว่าเป็นความท้าทาย ที่จะเข้ามาสานต่อนโยบายตามเจตนารมณ์ตามวิสัยทัศน์ขององค์กรที่วางไว้ โดยจะนำประสบการณ์จากการบริหารงานในช่วงที่ผ่านมา มาต่อยอดเพื่อพัฒนาศักยภาพในการยกระดับขีดความสามารถด้านธุรกิจการแข่งขัน ควบคู่ไปกับกลยุทธ์สร้างการเติบโตทั้งยอดขาย และผลกำไร เพื่อผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นทุกราย
อย่างไรก็ตาม จากจุดแข็งของ DOD ในการเป็นบริษัทชั้นนำในประเทศไทย ที่ให้บริการรูปแบบ One Stop Service Solution ในธุรกิจผลิตผลิตภัณฑ์ความงามและสุขภาพ ทั้งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสกินแคร์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แบบครบวงจร ประกอบกับการมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งมาเป็น Strategic Partner ยิ่งทำให้เชื่อมั่นว่า ก้าวต่อไปของ DOD ในอนาคตจะมุ่งเข้าสู่การเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยเน้นต่อยอดธุรกิจในปัจจุบันเพื่อก้าวสู่การเติบโตครั้งใหม่ในรูปแบบ New S-Curve เพื่อผลประกอบการที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคต