BLS แจง H1 กำไรวูบเหตุค่านายหน้าลดตามภาวะตลาดรวม-อัตราค่านายหน้าลดลง

          นายญาณศักดิ์ มโนมัยพิบูลย์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) (BLS) ชี้แจงกรณีมีกำไรสุทธิงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2550 เท่ากับ 77.75 ล้านบาท ลดลง 25.10 ล้านบาท หรือคิดเป็นลดลงร้อยละ 24.41 จากกำไรสุทธิในงวด 6 เดือนแรกของปี 2549 ซึ่งเท่ากับ 102.85 ล้านบาท ทั้งนี้มีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์จำนวน 117.96 ล้านบาท ซึ่งลดลงถึงร้อยละ 32.05 เมื่อเทียบกับรายได้งวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา
          รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ลดลง 117.96 ล้านบาท หรือลดลงคิดเป็นร้อยละ 32.05 เนื่องจากมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์โดยรวมของตลาดลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา และอัตราค่านายหน้าโดยเฉลี่ยของบริษัทลดลงซึ่งมีผลมาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ทางอินเทอร์เน็ต และปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์กับคู่ค้าต่างประเทศ (Exclusive Partner) 
          รายได้ค่านายหน้าจากธุรกิจอนุพันธ์ที่เพิ่มสูงขึ้นในงวด 6 เดือนแรกของปี 2550 มาจากปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันของตลาดโดยรวมเพิ่มสูงขึ้น และส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทที่เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้จำนวนวันที่ทำการซื้อขายในงวด 6 เดือนแรกของปี 2550 มีมากกว่างวด 6 เดือนแรกของปี 2549 เนื่องจากบริษัทได้เริ่มดำเนินธุรกิจอนุพันธ์ในปลายเดือนเมษายน 2549 
          รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเท่ากับ 56.25 ล้านบาท ลดลงจากรายได้ในงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมาเล็กน้อยซึ่งเท่ากับ 57.60ล้านบาท รายได้ส่วนใหญ่มาจากค่าธรรมเนียมที่ปรึกษาทางการเงินของสายงานวาณิชธนกิจ ซึ่งยังอยู่ในช่วงที่ภาวะตลาดทุนไม่เอื้ออำนวย
          กำไร(ขาดทุน)จากการซื้อขายหลักทรัพย์มียอดกำไรจำนวน 16.03 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการตีราคาหลักทรัพย์  ณ วันสิ้นงวดดอกเบี้ยและเงินปันผลเพิ่มขึ้น 8.23 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากเงินปันผลที่ได้รับจากการลงทุน และดอกเบี้ยรับจากการฝากเงินกับสถาบันทางการเงิน และการลงทุนในตราสารหนี้ โดยมาจากเงินฝากส่วนของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้น
          ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 3.11 ล้านบาท ทั้งนี้มีผลมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดเฉลี่ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทัพย์และอัตราเฉลี่ยของอัตราดอกเบี้ยด้านค่าใช้จ่าย
          หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญมีรายการโอนกลับเนื่องจากบริษัทได้รับชำระหนี้ที่ค้างชำระเกินกำหนดในงวด 6 เดือนแรกของปี 2550 และงวด 6 เดือนแรกของปี 2549
          ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 38.35 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 13.56 จากงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่มาจากการลดลงของค่าใช้จ่ายพนักงานซึ่งเป็นไปตามการลดลงของรายได้