บมจ.เมตะ คอร์ปอเรชั่น (META) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2563 เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 382,541,172 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 1,384,263,991 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 1,766,805,163 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 382,541,172 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Rights Offering) แบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) หรือคิดเป็นประมาณ 30% ของทุนชำระแล้วของบริษัทฯ
เนื่องจากบริษัทฯ มีแผนขยายธุรกิจไปยังธุรกิจพลังงานและขยายธุรกิจก่อสร้างเดิมซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในโครงการพลังงานหลายโครงการ โดยมีบริษัทมีนโยบายที่จะดำเนินการจัดหาเงินจากการออกและเสนอขายตราสารหนี้ระยะสั้น และ/หรือ ระยะยาว ในรูปแบบของตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange:B/E) และ/หรือ หุ้นกู้ (Debenture) ตามมติผู้ถือหุ้นที่ได้อนุมัติให้ออกและเสนอขายตราสารหนี้ระยะสั้น และ/หรือระยะยาว ตั๋วแลกเงิน และ/หรือ หุ้นกู้ ดังกล่าวมาใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม ด้วยคณะกรรมการบริษัทเห็นว่าเพื่อความคล่องตัวในการจัดหาแหล่งเงินทุนจะทำให้เพิ่มโอกาสและศักยภาพในการแข่งขันจึงเห็นสมควรให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการเพิ่มทุนหุ้นสามัญแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ทั้งนี้ การเสนอขายจะกำหนดราคาไม่ต่ำกว่า 0.24 บาท ซึ่งเป็นราคาเสนอขายที่ต่ากว่ามูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทฯ เนื่องจากบริษัทมีผลขาดทุนสะสมปรากฏในงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค.63 ซึ่งเป็นงบการเงินล่าสุดที่ได้รับการสอบทานโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
บริษัทจะยังไม่มีการจัดสรรหุ้นสามัญเพื่อรองรับการปรับสิทธิในใบสำคัญแสดงสิทธิจะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 4 (META-W4) เนื่องจากราคาใช้สิทธิของ META-W4 อยู่ที่ 3.5 บาท ซี่งสูงกว่าราคาของหุ้นเป็นอย่างมาก และหากมีผู้ถือ META-W4 บางรายประสงค์จะใช้สิทธิ บริษัทคาดว่าหลังการปรับสิทธิ บริษัทจะยังมีจำนวนหุ้นสามัญที่เพียงพอรองรับการใช้สิทธิดังกล่าว