บมจ.วาว แฟคเตอร์ (W) ซึ่งเดิมชื่อบมจ.อุตสาหกรรม อีเล็คโทรนิคส์ (EIC) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.) อนุมัติให้บริษัท โดมิโน่ เอเชีย แปซิฟิค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้ารับโอนกิจการร้านพิซซ่าภายใต้ชื่อทางการค้า "DOMINO’S PIZZA" ในประเทศไทย จากเจ้าของเดิมคือ บริษัท โดมิโน่ส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เอฟซี คอมมิซซารี่ จำกัด
รวมถึงการเข้าทำสัญญา Master Franchise Agreement กับ DOMINO’S PIZZA INTERNATIONAL FRANCHISING INC. (DPI) เพื่อให้ได้มาซึ่งสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการเปิดบริหาร และพัฒนากิจการ ร้านพิซซ่าภายใต้ชื่อทางการค้า "DOMINO’S PIZZA" ทั้งในนามตนเองหรือให้สิทธิบุคคลอื่น (Sub License) ในประเทศไทย ภายใต้ระบบและมาตรฐานเดียวกับร้าน "DOMINO’S PIZZA" ในประเทศสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ มีมูลค่าลงทุนรวมทั้งหมดไม่เกิน 400 ล้านบาท และดอกเบี้ยในอัตรา 10% ต่อปี แต่ไม่เกินจำนวน 26.61 ล้านบาท โดยคิดตั้งแต่วันกำหนดราคาและตกลงที่จะโอนกิจการ (1 ก.ย.62) จนถึงวันที่ชำระเงินครบถ้วน โดยบริษัทย่อยจะเข้าทำสัญญาโอนกิจการ (Business Transfer Agreement) ร้านพิซซ่าภายใต้ชื่อทางการค้า "DOMINO’S PIZZA" ในประเทศไทย กับผู้โอน และเข้าลงนามในสัญญา Master Franchise Agreement กับ DPI ภายในเดือนส.ค.63 และคาดว่าจะทำรายการแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 3/63 หรือต้นไตรมาส 4/63 รวมทั้งชำระเงินครบถ้วนภายในปี 63
สำหรับมูลค่าลงทุนดังกล่าว ประกอบด้วย 1. ทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบธุรกิจในส่วนของผู้โอน จำนวนประมาณ 387.15 ล้านบาท ได้แก่ สินทรัพย์ เจ้าหนี้การค้า ลูกหนี้การค้า พนักงาน ใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการ รวมถึงการดำเนินการให้บริษัทย่อยเข้าผูกพันในฐานะผู้เช่ากับเจ้าของพี้นที่เช่าเดิมที่สำหรับสาขาของ "DOMINO’S PIZZA" ที่มีอยู่ ณ วันที่โอนกิจการ โดยผู้โอนยังมีหน้าที่จะต้องยุติการประกอบกิจการร้านพิซซ่าภายใต้ชื่อทางการค้า "DOMINO’S PIZZA" ในประเทศไทยโดยสิ้นเชิง และต้องดำเนินการยุติสัญญา Master Franchise Agreement ที่ได้ทำกับ DPI ด้วย
2. ทรัพย์สินที่รับโอนมาจากบริษัท เอฟซี คอมมิซซารี่ จำกัด ซึ่งปัจจุบันดำเนินธุรกิจบริหารครัวกลางสำหรับธุรกิจร้านพิซซ่าภายใต้ชื่อทางการค้า "DOMINO’S PIZZA" ในประเทศไทย จำนวนประมาณ 12.85 ล้านบาท
ส่วนการได้สิทธิตามสัญญา Master Franchise Agreement ที่จะทำสัญญากับ DPI นั้น จะต้องจ่ายค่าตอบแทนให้แก่ DPI ตามแผนธุรกิจที่ได้วางแผนไว้ตลอดอายุสัญญาที่ไม่เกิน 10 ปี และระยะเวลาที่ต่ออายุสัญญาออกได้อีก 10 ปี ตามเงื่อนไขที่กำหนดในสัญญา
ขณะที่ได้รับสิทธิตามสัญญา Master Franchise Agreement ในการเปิดสาขาใหม่เพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 48 สาขา โดยคาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนทั้งสิ้นอีกประมาณ 351 ล้านบาท โดยเงินลงทุนดังกล่าวรวมถึงเงินลงทุนอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ ซึ่งตามเป้าหมายในปี 63-72 จะเปิดสาขาเพิ่มรวม 48 แห่ง เป็น 75 แห่งในปี 72 จากปัจจุบันที่มีอยู่ 27 แห่ง ซึ่งจะทำให้ DOMINO’S PIZZA สามารถครอบคลุมการจัดจำหน่ายให้กับครัวเรือนในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมาณฑลได้ 75% ของศักยภาพพื้นที่ทั้งหมด
บริษัท โดมิโน่ส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกอบธุรกิจรร้านอาหารบริการด่วนที่มีเมนูหลากหลาย ทั้งพิซซ่า ขนมปัง พาสต้า เครื่องเคียงและของหวานต่าง ๆ ภายใต้ชื่อ "DOMINO’S PIZZA" ณ วันที่ 31 มี.ค.63 มีร้านพิซซ่าเป็นจำนวน 27 แห่ง และมีส่วนแบ่งตลาดพิซซ่าสูงเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ
สำหรับแหล่งเงินลงทุนจะมาจาก 3 ส่วน ได้แก่ การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2563 จำนวน 2.82 พันล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท เสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน (RO) ในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 0.30 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 0.12 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 338.09 ล้านบาท โดยกำหนดจองซื้อและชำระค่าหุ้นในวันที่ 10-21 ส.ค.63 ,กระแสเงินสดจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท และการกู้ยืมเงิน โดยบริษัทอาจนำสินทรัพย์หรือเงินลงทุนที่มีศักยภาพไปใช้เป็นหลักประกันในการจัดหาเงินกู้ยืมดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าการเข้าลงทุนครั้งนี้จะให้ผลตอบแทน (IRR) ในอัตรา 10.21–19.37% ซึ่งเป็นผลตอบแทนที่ไม่ต่ำกว่าต้นทุนทางการเงินถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของบริษัท (Weighted Average Cost of Capital :WACC) ซึ่งปัจจุบันมีอัตราอยู่ที่ 9.11% มีระยะเวลาคืนทุนประมาณ 10 ปี เมื่อเทียบกับเป้าหมายระยะเวลาคืนทุนของบริษัทในกรณีเข้าซื้อธุรกิจอาหารที่ประมาณ 5- 15 ปี
ตลอดจนเสริมสร้างความแข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจอาหารของบริษัท ที่ ณ วันที่ 31 มี.ค.63 มีแบรนด์ธุรกิจอาหารทั้งสิ้น 6 แบรนด์ รวม 14 สาขา การได้มาซึ่งธุรกิจ DOMINO’S PIZZA จะช่วยให้ Portfolio ของกลุ่มธุรกิจอาหารของบริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดดในทันที เป็น 7 แบรนด์ รวม 41 สาขา การเพิ่มจำนวนสาขาดังกล่าวจะส่งผลให้ฐานลูกค้าในธุรกิจอาหารครอบคลุมขึ้น โดยจะเพิ่มฐานลูกค้าในลักษณะอาหารจานด่วน เพิ่มเติมจากกลุ่มลูกค้าในปัจจุบันที่เป็นกลุ่มลูกค้าร้านขนมหวาน ร้านชาบูชาบู และร้านอาหารประเภท Fine-Dining เท่านั้น ซึ่งบริษัทอาจทำ Cross Marketing Promotion ระหว่างกัน หรือ สามารถร่วมใช้ฐานข้อมูล เทคโนโลยี รวมทั้งทรัพยากรบุคคลระดับบริหารร่วมกันได้
ทั้งนี้ W กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2563 ในวันที่ 24 ส.ค.63 เพื่อพิจารณาเรื่องการเข้ารับโอนกิจการ DOMINO’S PIZZA ในไทย