บมจ.ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น (TWZ) แจ้งว่า บริษัท พีจี แอนด์ ซี 5714 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าระบบพลาสม่า โดยใช้ขยะอุตสาหกรรมเป็นเชื้อเพลิงนั้น เตรียมที่จะขอขยายยระยะเวลาจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ตามสัญญา (SCOD) จากเดิมในวันที่ 31 ต.ค.63 ออกไปอีก 6-9 เดือนอันเนื่องมาจากเกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด (โควิด-19) ทำให้การขนส่งระหว่างประเทศได้ถูกระงับและทางประเทศรัสเซียผู้ผลิตไม่สามารถส่งมอบเครื่องพลาสม่าได้ตามกำหนดเดิม ซึ่งบริษัทเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ได้ทันตามระยะเวลาที่จะขอขยายเพิ่มอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการรับซื้อไฟฟ้าพิเศษจากขยะอุตสาหกรรมในรูปแบบ Feed-in Tariff (FIT) มีพื้นที่ตั้ง ณ นิคมสหรัตนนคร มีปริมาณเสนอขาย 2.5 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.62 คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติให้ขยายกำหนดวัน SCOD จากเดิมภายในวันที่ 31 ธ.ค.62 เป็นภายในวันที่ 31 ต.ค.63 ซึ่งหากครบตามกำหนดเวลาที่ขยายแล้วยังไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ได้และไม่ได้รับการผ่อนผัน สัญญาซื้อขายไฟฟ้าก็จะสิ้นสุดลง
สำหรับการได้รับขยายระยะเวลา SCOD เป็นวันที่ 31 ต.ค.63 ก่อนหน้านี้นั้น เนื่องจากเกิดเหตุสุดวิสัย จากการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่มีต่อประเทศรัสเซีย ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงงานผลิตเครื่องพลาสม่า ทำให้ส่วนประกอบที่ต้องนำเข้าเกิดความล่าช้า และส่งผลต่อเนื่องทำให้การผลิตล่าช้ากว่าประมาณการ ซึ่งปัญหาดังกล่าวเป็นผลมาจากปัจจัยภายนอกที่อยู่เหนือการควบคุมของบริษัท