บมจ.อินฟราเซท (INSET) แจ้งว่าบริษัทได้รับใบสั่งซื้อและหนังสือสั่งจ้างโครงการติดตั้งวงจรกรองสัญญาณย่านความถี่ 850 MHz คิดเป็นมูลค่างานรวม 1.16 พันล้านบาท โดยมีผู้ว่าจ้าง ประกอบด้วย บมจ.อินฟอร์เมชั่น แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น เน็ทเวิร์คส (ICN) มูลค่างาน 558.42 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และบริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด มูลค่างาน 606.01 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
สำหรับงานดังกล่าวมีขอบเขตในการตรวจวัดสัญญาณโครงข่ายก่อนและหลังติดตั้ง จัดหาและติดตั้งวงจรกรองโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ย่านความถี่ 850 MHz และปรับแต่งโครงข่าย ซึ่งลักษณะโครงการเป็นการจ้างเหมาติดตั้งวงจรกรองสัญญาณ บนโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ย่านความถี่ 850 MHz ของบมจ.กสท โทรคมนาคม เพื่อป้องกันการรบกวนกับโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ย่านความถี่ 900 MHz มีระยะเวลาของสัญญารวม 420 วัน รับประกัน 5 ปี
"การรับงานในโครงการขนาดใหญ่ในครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯที่มีความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์จนได้รับความไว้วางใจ ซึ่งจะสนับสนุนให้มีโอกาสได้รับงานใหม่เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งงานโครงการฯดังกล่าว ช่วยเพิ่มมูลค่างานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog) ในปัจจุบันทะลุ 3.34 พันล้านบาท ซี่งจะเป็นปัจจัยทำให้บริษัทฯสามารถเติบโตตามได้เป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน"นายศักดิ์บวร พุกกะณะสุต กรรมการผู้จัดการ INSET กล่าว
นายศักดิ์บวร กล่าวอีกว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง คาดว่าจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากงานที่ได้รับมาในครึ่งปีแรก จะดำเนินการแล้วเสร็จและสามารถรับรู้รายได้เข้ามาช่วงครึ่งปีหลัง รวมทั้งมีงานบางส่วนที่เลื่อนรับมอบงานในไตรมาส 2/63 เข้ามาเพิ่มเติมด้วย
ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทยังคงเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10-15% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.2 พันล้านบาท เนื่องจากมีการรับรู้รายได้จากงานในมือ ขณะที่ปัจจุบันสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย รวมถึงการที่บริษัทฯยังมองโอกาสเข้าประมูลงานใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงาน Data Center และงานประเภทการขยายโครงข่าย 5G ผู้ประกอบการโทรคมนาคม คาดว่าจะเห็นการลงทุนในเร็ววันนี้
อย่างไรก็ตาม ในปี 63 บริษัทฯจะมีสัดส่วนรายได้จะมาจากธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและโครงข่ายโทรคมนาคม ประมาณ 60% ,ธุรกิจก่อสร้างศูนย์ข้อมูลและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ 30% และธุรกิจงานซ่อมบำรุงและบริการ ซึ่งเป็นรายได้ประจำ (Recurring income)10%