บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) แจ้งว่าวันนี้ (15 ก.ค.) บริษัท อาร์เอช อินเตอร์เนชั่นแนล (สิงคโปร์) คอร์ปอเรชั่น จำกัด (RHIS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อม ได้ลงนามสัญญาหลัก (Definitive Agreement) ที่เกี่ยวข้องกับการเป็นหุ้นส่วนกับ Geleximco Group Joint Stock Company (Geleximco) ภายหลังจากบรรลุเงื่อนไขบังคับก่อนที่ระบุในสัญญานี้ บริษัท RHIS กับบริษัท Geleximco จะร่วมลงทุนในกองทุน An Binh Energy and Infrastructure Fund (ABEIF) โดยบริษัท RHIS ถือหุ้น 49% และบริษัท Geleximco ถือหุ้น 51% ของทุนจดทะเบียนกองทุน ABEIF โดยมูลค่าลงทุนของ RHIS อยู่ที่ประมาณ 78.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 2.5 พันล้านบาท
ABEIF จัดตั้งเมื่อปี 60 เป็นกองทุนเวียดนามที่มุ่งเน้นลงทุนในธุรกิจด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐานในเวียดนาม ไม่จำกัดเฉพาะโครงการพลังความร้อนและโครงการพลังงานทดแทน แต่ยังรวมถึงโครงการที่มีศักยภาพต่าง ๆ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินขนาด 1,200 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการเริ่มพัฒนาโครงการ ตั้งอยู่ทางตอนกลางของเวียดนาม, โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน Thang Long ขนาด 620 เมกะวัตต์ เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเวียดนาม, โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ขนาด 150 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการเริ่มพัฒนาโครงการ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเวียดนาม และโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน ขนาด 650 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเวียดนาม เป็นต้น
ส่วน Geleximco เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ซึ่งดำเนินธุรกิจที่สำคัญต่าง ๆ เช่น ธุรกิจพลังงาน ภาคอุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์ การเงิน ธุรกิจการค้าและการบริการ เป็นต้น โดยความร่วมมือครั้งนี้เป็นการลงทุนครั้งสำคัญครั้งแรกของบริษัท ร่วมกับกลุ่มพันธมิตรท้องถิ่นที่แข็งแกร่งในเวียดนาม และสอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตระยะยาวของบริษัทในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้ เวียดนามเป็นตลาดพลังงานที่มีการเติบโตสูงที่มีเป้าหมายกำลังการผลิตติดตั้งรวม 130 กิกะวัตต์ ภายในปี 73 เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากปัจจุบันที่ 54 กิกะวัตต์ สำหรับกองทุน ABEIF จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาและการดำเนินงานโครงการโรงไฟฟ้าและสินทรัพย์ที่มีคุณภาพสูง และมีชนิดของเชื้อเพลิงหลากหลายประเภทในเวียดนาม
นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ RATCH กล่าวว่า ปัจจุบันกองทุน ABEIF ได้ลงทุนและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิลและโครงการพลังงานทดแทนรวม 4 โครงการ มีกำลังการผลิตรวม 2,620 เมกะวัตต์ และ 1 ใน 4 โครงการนี้ มีขนาดกำลังการผลิต 620 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเวียดนาม เป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว
"ความสำเร็จในครั้งนี้ ซึ่งมีนัยสำคัญในการเริ่มต้นการผสานศักยภาพและผนึกความแข็งแกร่งกับพันธมิตรใหม่อย่าง Geleximco Group ร่วมกันพัฒนาธุรกิจในเวียดนาม ตามทิศทางและเป้าหมายที่สอดคล้องกันอันได้แก่ธุรกิจที่สร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเวียดนามให้เจริญเติบโตและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งรัฐบาลเวียดนามมีเป้าหมายที่จะพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 130 กิกะวัตต์ ภายในปี 2573 จากปัจจุบันที่ 54 กิกะวัตต์ บริษัทจึงมีความเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจของเวียดนามจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง"นายกิจจา กล่าว