บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน (AMATA) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 24 ก.ค. อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2563 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 ก.ย. พิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1,150 ล้านบาท จากเดิม 1,067 ล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 83 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering :RO) ในอัตรา 12.8554217 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ซึ่งบริษัทจะประกาศราคาเสนอขายก่อนหน้าวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนตามสัดส่วน (Record Date) หรือก่อนวันที่ 21 ก.ย. ขณะที่กำหนดวันจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนระหว่างวันที่ 9-16 ต.ค.
สำหรับวัตถุประสงค์การเพิ่มทุนครั้งนี้ เพื่อใช้สำหรับการขยายธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในโครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะอมตะย่างกุ้งในช่วงระยะเวลาที่ 1 (Yangon Amata Smart & Eco City) ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยบริษัทได้วางแผนการลงทุนพัฒนาโครงการในช่วงแรกประมาณ 41.53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,287 ล้านบาท สำหรับพัฒนาพื้นที่โครงการในช่วงแรกบนพื้นที่ 200 เอเคอร์ หรือประมาณ 506 ไร่ ภายในปี 64 ซึ่งโครงการดังกล่าวสามารถสร้างรายได้ให้แก่บริษัท และเพิ่มผลประกอบการของบริษัทในอนาคต
โครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมดังกล่าวมีบริษัท Yangon Amata Smart and Eco City Limited (YASEC) เป็นเจ้าของโครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมดังกล่าว ซึ่งบริษัทได้ลงทุนผ่านบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นในอัตราส่วน 100% ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว คือ Amata Asia (Myanmar) Ltd อย่างไรก็ตาม โครงสร้างการถือหุ้นของ YASEC เป็นการร่วมลงทุนระหว่างหน่วยงานราชการของประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาและบริษัท โดยหน่วยงานราชการดังกล่าวจะนำที่ดินที่เวนคืนมาได้เป็นทุนชำระแล้วในสัดส่วน 20% ของ YASEC และบริษัทจะนำเงินเพิ่มทุนในครั้งนี้ประมาณ 16.18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 502 ล้านบาท ไปใช้เพิ่มทุนชำระแล้วในสัดส่วน 80% ของ YASEC ต่อไป
เงินเพิ่มทุนของ YASEC จะนำไปใช้ในการปรับพื้นที่ดิน และงานก่อสร้างเพื่อพัฒนาระบบสาธารณูปโภค เช่น ระบบน้ำประปา ระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบป้องกันน้ำท่วม ระบบการเชื่อมโยงไฟฟ้า ระบบการติดต่อสื่อสาร และระบบป้องกันน้ำท่วม เป็นต้น
ทั้งนี้ การประสบความสำเร็จในการจัดหาเงินทุนในช่วงแรกส่งผลต่อเนื่องถึงความสามารถและเป้าหมายในการดำเนินการขยายธุรกิจตามแผนเบื้องต้นในการพัฒนาโครงการดังกล่าวต่อไปในอนาคต โดยโครงการทั้งหมดสามารถสร้างรายได้โดยตรงให้แก่บริษัท และเพิ่มผลประกอบการของบริษัทในอนาคต
สำหรับโครงการพัฒนาเมืองอัจฉริยะอมตะย่างกุ้งช่วงระยะเวลาที่ 1 ทั้งโครงการมีพื้นที่ทั้งหมด 2,000 เอเคอร์ หรือประมาณ 5,060 ไร่ ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนทั้งหมดประมาณ 162 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5,022 ล้านบาท ตลอดในช่วงระยะเวลาที่ 1 เป็นเวลา 5-10 ปี แต่เบื้องต้นแบ่งพื้นที่พัฒนาในช่วงแรกของโครงการเป็นจำนวนพื้นที่ 200 เอเคอร์ หรือประมาณ 506 ไร่ หรือคิดเป็น 10% ของพื้นที่โครงการในช่วงระยะเวลาที่ 1 สำหรับการพัฒนาที่ดินให้แล้วเสร็จภายในปี 64
อย่างไรก็ตามการเพิ่มทุนดังกล่าว บริษัทอาจไม่ได้รับเงินทุนเพียงพอตามวัตถุประสงค์การใช้เงินทุน ดังนั้น นายวิกรม กรมดิษฐ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริษัท ประธานกรรมการบริหาร และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 24.40% ได้แสดงความประสงค์ที่จะจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวตามสัดส่วนที่ถืออยู่ และจองซื้อเกินสิทธิเป็นจำนวนรวมไม่เกิน 530 ล้านบาท ในราคาเดียวกันกับราคาที่เสนอขายต่อผู้ถือหุ้น และเสนอการจองซื้อเกินสิทธิให้กับผู้ถือหุ้นทุกรายเท่าเทียมกัน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าบริษัทมีจำนวนเงินที่เพียงพอในการเพิ่มทุน จึงได้ขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท โดยอาศัยมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น (Whitewash) ในครั้งนี้ด้วย
AMATA ยังแจ้งเพิ่มเติมว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังอนุมัติการเข้าร่วมลงทุนในบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท และ Sinotech Engineering Consultants, Ltd เพื่อพัฒนาโครงการ Amata Taipei Smart City โดยทั้งสองฝ่ายจะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ Amata Sino Development Co.,Ltd. จดทะเบียนในไทย มีทุนจดทะเบียน 75 ล้านบาท โดยบริษัทถือหุ้น 80.1% คิดเป็นเงินลงทุน 60 ล้านบาท และ Sinotech Engineering Consultants, Ltd ถือหุ้น 19.99% ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการจัดตั้งบริษัทได้ในไตรมาส 4/63