บมจ.ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า (STANLY) ชี้แจงผลดำเนินงานไตรมาส 1/63 (1 เม.ย.-30 มิ.ย.2563) บริษัทขาดทุนสุทธิ 184.05 ล้านบาท ผลดำเนินงานลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2562 ซึ่งมียอดกำไรสุทธิ 334.05 ล้านบาท จากปัจจัยต่าง ๆ ของบริษัทดังนี้
1.ยอดขายและการผลิตลดลงอย่างมาก จนต่ำกว่า Economical of Scale ในการผลิต
2.บริษัทมีต้นทุนคงที่ต่าง ๆ อาทิ ค่าเสื่อมราคา ค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เนื่องจากบริษัทยังคงเปิดดำเนินงาน และไม่มีการปลดพนักงาน โดยบริษัทได้พยายามปรับแผนการผลิต และออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดค่าใช้จ่าย
ยอดขายในช่วงไตรมาส 1 (1 เม.ย.-30 มิ.ย.2563) บริษัทมียอดขายทั้งสิ้น 1,718.64 ล้านบาท ลดลง 1,700.03 ล้านบาท หรือ 49.73% จากช่วงเดียวกันของปี 62 ที่มียอดขาย 3,418.67 ล้านบาท อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อทุกธุรกิจทั้งในประเทศและการส่งออก รวมถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งระบบ ดังนี้
ในส่วนของรถยนต์มีการผลิตจำนวน 152,450 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 62 ที่มียอดการผลิต 504,458 คัน คิดเป็นลดลง 69.78% โดยมียอดการส่งออกจำนวน 100,269 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 62 ที่มียอดการส่งออกจำนวน 260,020 คัน คิดเป็นลดลง 61.44% ขณะเดียวกันยอดขายภายในประเทศมีจำนวน 128,540 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 62 ที่มียอดขายจำนวน 260,221 คัน คิดเป็นลดลง 50.60%
ส่วนของรถจักรยานยนต์ มียอดการผลิตทั้งสิ้น 206,005 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 62 ที่มียอดการผลิต 463,589 คัน ลดลง 55.56% และมียอดขายในประเทศ 301,159 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 62 ที่มียอดขาย 431,797 คัน คิดเป็นลดลง 30.25%