ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รับหลักทรัพย์ประเภทหุ้นสามัญ ของบมจ.ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป ใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ IIG เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ตั้งแต่วันที่ 6 ส.ค.63 โดยมีจำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. และจำนวนหุ้นชำระแล้ว 100 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นทุนชำระแล้ว 50 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 25 ล้านหุ้น แบ่งจัดสรรให้กับประชาชนทั่วไป 18.77 ล้านหุ้น และกรรมการ ผู้บริหาร หรือพนักงานของบริษัทหรือบริษัทย่อย (ESOP) จำนวน 6.23 ล้านหุ้น ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 6.60 บาท ระหว่างวันที่ 29-31 ก.ค.63
IIG ดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีให้แก่ภาคธุรกิจต่าง ๆ โดยสามารถแบ่งออกตามประเภทของการดำเนินธุรกิจได้ ดังนี้ 1. ธุรกิจที่ปรึกษาและให้บริการออกแบบติดตั้งระบบบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) และให้เช่าใช้ระบบซอฟต์แวร์จากทาง Salesforce
2. ธุรกิจที่ปรึกษาและให้บริการออกแบบติดตั้งระบบวางแผนทรัพยากรองค์กร (ERP) และเป็นตัวแทนจำหน่ายระบบซอฟต์แวร์จากทาง Oracle 3. ธุรกิจที่ปรึกษาด้านการวางแผนกลยุทธ์แบรนด์ (Brand Strategy) การสร้างและบริหารประสบการณ์ (Experience Management) และการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) และ 4. ธุรกิจให้บริการจัดหาบุคลากร ในส่วนงานสารสนเทศ
IIG มีกลุ่มลูกค้าหลักคือกลุ่มสถาบันการเงินและธนาคาร กลุ่มธุรกิจประกันชีวิต กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตและก่อสร้าง กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มธุรกิจการแพทย์ และกลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า
นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ต้อนรับ บมจ. ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ภายใต้กลุ่มเทคโนโลยี โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "IIG" ในวันที่ 6 ส.ค.63
IIG เสนอขายหุ้น IPO ที่ราคาหุ้นละ 6.60 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 165 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO ที่ระดับ660 ล้านบาท โดยราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) เท่ากับ 12.05 เท่า คำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (ตั้งแต่ 1 เม.ย.62-31 มี.ค.63) เท่ากับ 54.79 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.55 บาทต่อหุ้น โดยมี บล. โนมูระ พัฒนสิน เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ IIG เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจให้คำปรึกษาด้านบริการด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีครบวงจรมาแล้วกว่า 28 ปี มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่มีความเข้าใจในอุตสาหกรรม บริษัทมุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน
อีกทั้งบริษัทยังมีคู่ค้าที่เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ชั้นนำระดับโลก การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในครั้งนี้จะช่วยสร้างฐานทุนที่แข็งแกร่ง โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนในการพัฒนาและก่อตั้งศูนย์พัฒนาซอฟต์แวร์ (Developing Center) ลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
IIG มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO 3 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มเมฆะสุวรรณโรจน์ ถือหุ้น 36.51% กลุ่มโพธิรัตน์สมบัติ ถือหุ้น 14.21% และกลุ่มรักอำนวยกิจ ถือหุ้น 13.97% บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัท ภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองต่าง ๆ ตามกฎหมาย