บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) หรือเอสซีจี แจ้งว่าบริษัท ผลิตภัณฑ์และวัตถุก่อสร้าง จำกัด (CPAC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SCC ถือหุ้น 100% บรรลุข้อตกลงเข้าร่วมทุนกับ SHO-BOND & MIT Infrastructure Maintenance Corporation (SB&M) จัดตั้งบริษัทร่วมทุนสำหรับดำเนินธุรกิจ Lifetime Solution แบบครบวงจรในประเทศไทย เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดงานซ่อมแซมอาคารและโครงสร้างพื้นฐานในประเทศและในภูมิภาคอาเซียนในอนาคต โดยธุรกรรมดังกล่าวมีมูลค่า 150 ล้านบาท ซึ่ง CPAC และ SB&M จะถือหุ้นในบริษัทร่วมทุนในสัดส่วน 51:49 ตามลำดับ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในไตรมาส 4/63
SB&M เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง SHO-BOND Holdings Co., Ltd. (SHO-BOND) และ Mitsui & CO., Ltd. (Mitsui) ในสัดส่วน 51:49 ตามลำดับ ซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 62 ดำเนินธุรกิจให้บริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีในการซ่อมแซมงานโครงสร้างขนาดใหญ่ รวมไปถึงการพัฒนา ผลิตและจัดจำหน่ายวัสดุที่ใช้ในการซ่อมแซมอาคารและโครงสร้างขนาดใหญ่
SHO-BOND และ Mitsui เป็นบริษัทชั้นนำในประเทศญี่ปุ่น โดย SHO-BOND ดำเนินธุรกิจวิจัย ผลิต และจัดจำหน่ายวัสดุที่ใช้ในงานซ่อมและให้บริการซ่อมแซมโครงสร้างขนาดใหญ่ในญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 01 ขณะที่ Mitsui เป็นหนึ่งในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเทรดดิ้ง และการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งสองบริษัทมียอดขายในปี 62 ประมาณ 60,824 และ 6,957,500 ล้านเยน ประมาณ 17,323 และ 1,981,538 ล้านบาท ตามลำดับ
การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนนี้จะช่วยสนับสนุนธุรกิจของ CPAC โดยจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดซ่อมแซมอาคารและโครงสร้างขนาดใหญ่จากการที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากประเทศญี่ปุ่น
นายชนะ ภูมี Vice President-Cement and Construction Solution Business ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดงานซ่อมแซมอาคารและโครงสร้างพื้นฐานในประเทศและในภูมิภาคอาเซียน และจะช่วยยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมการก่อสร้างและงานซ่อมแซมโครงสร้างต่าง ๆ ของประเทศเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และเพิ่มศักยภาพในการขยายโอกาสทางธุรกิจไปยังตลาดภูมิภาคอาเซียนได้ในอนาคต
สำหรับการดำเนินการจะนำจุดแข็งของทั้งสองบริษัท ระหว่าง SB&M ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี รวมไปถึงการพัฒนา ผลิตและจัดจำหน่ายวัสดุที่ใช้ซ่อมแซมอาคารและโครงสร้างขนาดใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น และ CPAC ผู้นำในอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างในประเทศไทย ที่ปัจจุบันต่อยอดจากจุดแข็งเดิมซึ่งเป็นผู้ผลิตคอนกรีตผสมเสร็จ มาเป็น Solution Provider ด้วยบริการ "Lifetime Solution" ให้บริการด้านงานซ่อมแซม ปรับปรุง รวมไปถึงการป้องกันการกัดกร่อนที่จะส่งผลกระทบต่อโครงสร้าง ช่วยยืดอายุการใช้งานอาคารและโครงสร้างให้มีอายุยาวนานขึ้น
การบริการ Lifetime Solution แบ่งประเภทงานซ่อมแซม ดังนี้
1. งาน Repair & Maintenance Solution เป็นการให้บริการงานซ่อมแซมโครงสร้างอาคารที่เกิดความเสียหายจากการใช้งาน หรือการเสื่อมสภาพของวัสดุ เพื่อยืดอายุการใช้งานของอาคารให้มีสามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น แก้ไขปัญหาอย่างถูกวิธี และเลือกใช้วัสดุซ่อมที่มีคุณภาพสูงด้วยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
2. งาน Renovation เป็นการให้บริการงานปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และเสริมกำลังให้แก่โครงสร้างเดิม เพื่อการเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานบนโครงสร้างเดิมให้มีความหลากหลาย หรือเป็นการเปลี่ยนวัตถุประสงค์ของการใช้งานโครงสร้างเดิมให้ต่างออกไป
3. งาน Corrosion Protection เป็นบริการงานด้านการป้องกันการเกิดสนิมกับโครงสร้างเหล็ก และคอนกรีตเสริมเหล็ก เพื่อยืดอายุการใช้งานของโครงสร้างให้ยาวนานมากขึ้น เหมาะสำหรับงานก่อสร้างใหม่และการซ่อมแซมโครงสร้างเดิมที่เกิดปัญหา โดยเฉพาะเมื่อโครงสร้างนั้นอยู่ในสภาวะที่ความเสี่ยงต่อการกัดกร่อนสูง ได้แก่ โครงสร้างสะพานและท่าเรือ สภาพแวดล้อมที่อยู่ใกล้ทะเล หรือมีความชื้นสูง มีระดับน้ำขึ้น-ลงตลอดเวลา ซึ่งการเกิดสนิมในโครงสร้างจะทำให้สภาวะการรับน้ำหนักของโครงสร้างลดลง และเกิดความเสียหายในวงกว้างยากแก่การซ่อมแซมได้อย่างทันท่วงที