บมจ.โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) (PTL) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันนี้ (29 ก.ย.) อนุมัติการลงทุนในโครงการ Brownfield สายการผลิตแผ่นฟิล์ม BOPET ชนิดบาง ในประเทศสหรัฐอเมริกา มูลค่าการลงทุนรวมเงินทุนหมุนเวียนอยู่ที่ประมาณ 102.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 3.23 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการดำเนินการ โดยบริษัท โพลีเพล็กซ์ (ยูเอสเอ) แอลแอลซี ซึ่งเป็นบริษัทย่อย
สำหรับรายละเอียดโครงการ ประกอบด้วย สายการผลิตแผ่นฟิล์ม BOPET ชนิดบาง ขนาดกว้าง 10.6 เมตร ด้วยความเร็ว 650 เมตรต่อนาที โดยมีกำลังการผลิตประมาณ 50,000 ตันต่อปี และการขยายกำลังการผลิต (Debottleneck) ของสายการผลิตเม็ดพลาสติก PET จาก 58,000 ตันต่อปี เป็น 86,000 ตันต่อปี โดยประเภทผลิตภัณฑ์ของสายการผลิตแผ่นฟิล์ม BOPET ใหม่จะมีความหนา 8-50 ไมครอน
ทั้งนี้ การเริ่มดำเนินโครงการดังกล่าวจะก่อให้เปิดประโยชน์แก่บริษัท ทั้งในเรื่องตลาด ซึ่งอเมริกาเหนือ นับเป็นตลาดแผ่นฟิล์ม PET ขนาดใหญ่ ประกอบกับไม่มีการลงทุนรายใหญ่ในสหรัฐ ในอุตสาหกรรมนี้ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา และไม่มีกำลังการผลิตที่จะเกิดขึ้นใหม่ จึงเป็นโอกาสที่น่าสนใจในการรองรับความต้องการใช้ที่เติบโต รวมถึงยังมีโครงสร้างต้นทุนที่แข่งขันได้ เป็นต้น
นายอมิต ปรากาซ กรรมการผู้จัดการ PTL เปิดเผยว่า บริษัทได้ประกาศแผนการลงทุนดังกล่าว เพื่อตอกย้ำการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายแผ่นฟิล์ม PET ระดับแนวหน้าของโลก โดยจะลงทุนเพิ่มไลน์การผลิตแผ่นฟิล์ม BOPET ชนิดบาง และขยายกำลังการผลิตเม็ดพลาสติก PET ของโรงงานที่เมืองดีเคเตอร์ รัฐอลาบามา ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อสอดคล้องกับความต้องการแผ่นฟิล์ม PET มากขึ้น และดึงส่วนแบ่งการตลาดจากการนำเข้าในสหรัฐฯ
สำหรับงบการลงทุนดังกล่าวจะมาจากเงินทุนสำรองของบริษัท และเงินกู้ระยะสั้น โดยจะเริ่มดำเนินการโครงการนี้ภายในครึ่งแรกของปี 64 และคาดว่าจะเริ่มเปิดสายการผลิตได้อีกประมาณ 24 เดือนจากนี้ เมื่อการดำเนินการแล้วเสร็จจะส่งผลให้บริษัทมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 18-20%
ไลน์การผลิตแห่งใหม่นี้เป็นสายการผลิตฟิล์ม BOPET สายที่สองสำหรับบริษัทในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสายการผลิตที่มีประสิทธิผลมากที่สุดในภูมิภาคและทั่วโลก นอกจากจะช่วยเสริมกำลังการผลิตแล้ว ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งในภูมิภาคและทั่วโลก รองรับความต้องการใช้แผ่นฟิล์ม PET ชนิดบางที่ถูกนำไปใช้ในบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อนตัวในภาคอุตสาหกรรมอาหารในตลาดสหรัฐอเมริกาที่มีแนวโน้มเติบโตทุกปี
การลงทุนครั้งนี้ ส่งผลดีต่อการบริหารจัดการด้านโครงสร้างต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ต้นทุนต่อหน่วยถูกลงจากการเพิ่มสายการผลิตเป็น 2 สาย รองรับแผนการรุกขยายตลาดภายในภูมิภาคและลดการนำเข้าแผ่นฟิล์ม PET จากต่างประเทศ และยังช่วยให้ Polyplex USA ก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาดในสหรัฐอเมริกา เหมือนกับที่บริษัทได้เคยประสบความสำเร็จมาแล้วในภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก
"เรามีความมุ่งมั่นขยายธุรกิจของเราอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินงาน ควบคู่กับการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและชุมชน ตลอดจนการนำความเชี่ยวชาญของทีมงานที่มีประสบการณ์ในการขยายตลาดที่สร้างความสำเร็จมาแล้วในตลาดอื่น ๆ ทั่วโลก เข้ามาช่วยวางแผนทั้งด้านระบบการขายและการจัดจำหน่ายให้มีประสิทธิภาพ เพื่อต่อยอดสร้างความสำเร็จในการสร้างมูลค่าเพิ่มทางธุรกิจ ด้วยการส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพ ตรงต่อเวลา และสร้างความพึ่งพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า"นายอมิต กล่าว