(เพิ่มเติม) BANPU ปิดดีลซื้อแหล่งบาร์เนตต์ในสหรัฐฯ หลังชำระก้อนสุดท้ายราว 1 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday October 2, 2020 15:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.บ้านปู (BANPU) แจ้งว่า BKV Corporation (BKV) บริษัทย่อยของบริษัทได้ทำการเข้าซื้อสัดส่วนผลประโยชน์ในบริเวณแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ (Barnett) ประเทศสหรัฐอเมริกาเสร็จสิ้นแล้วในวันที่ 1 ต.ค.63

โดยมูลค่าการลงทุนจำนวน 570 ล้านเหรียญสหรัฐนั้น บ้านปู มีสิทธินำกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของแหล่งบาร์เนตต์ รวมถึงการปรับปรุงแก้ไขรายรับและค่าใช้จ่ายอื่นๆ นับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.62 จำนวน 80.2 ล้านเหรียญสหรัฐ มาหักจากมูลค่าการลงทุนได้ ซึ่งบ้านปูได้ชำระเงินมัดจำไปแล้วจำนวน 170 ล้านเหรียญสหรัฐ ดังนั้นคงเหลือเงินสดที่จ่ายในวันที่ 1 ต.ค.63 จำนวน 319.8 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่าประมาณ 10,105 ล้านบาท

การลงทุนครั้งนี้จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตของธุรกิจก๊าซธรรมชาติของบ้านปูในสหรัฐอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งสามารถรับรู้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานของแหล่งบาร์เนตต์ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.62 ได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถสร้างประโยชน์ร่วมจากการแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยีจากการดำเนินงานในแหล่งที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่มและสอดรับกับการเติบโตของการใช้พลังงานจากก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BANPU กล่าวว่า ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน เพราะเป็น bridging fuel หรือเชื้อเพลิงที่เป็นตัวเชื่อมสำคัญในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านจากพลังงานเชื้อเพลิงที่ต้นทุนต่ำไปสู่การใช้พลังงานหมุนเวียนในอนาคต นอกจากธุรกิจก๊าซธรรมชาติจะสอดคล้องกับกลยุทธ์ Greener & Smarter ของบริษัทฯ แล้ว ยังเป็นธุรกิจที่เติบโตได้ดีจากความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในระยะยาวไปจนถึงปี 25931 บ้านปูฯ จึงไม่หยุดนิ่งในการแสวงหาโอกาสในการลงทุนในธุรกิจนี้อย่างต่อเนื่องและเลือกลงทุนในจังหวะที่เหมาะสม เพื่อสร้างรายได้จากธุรกิจก๊าซธรรมชาติอย่างสม่ำเสมอ และเพิ่ม EBITDA จากธุรกิจก๊าซธรรมชาติในพอร์ตของบริษัทฯ ให้เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา เราได้ทำสัญญาซื้อขาย (Purchase and Sale Agreement: PSA) ผ่านบริษัท บ้านปู นอร์ท อเมริกา คอเปอเรชั่น จำกัด (Banpu North America Corporation) หรือ BNAC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบ้านปูฯ ที่ดูแลบริหารจัดการธุรกิจก๊าซธรรมชาติ (Shale Gas) ในสหรัฐฯ เพื่อลงทุนและดำเนินการผลิตในแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ (Barnett) ในรัฐเท็กซัส ด้วยกลยุทธ์การลงทุนในแหล่งก๊าซธรรมชาติที่มีความเสี่ยงต่ำและดำเนินการผลิตอยู่แล้ว การที่เราตัดสินใจปิดดีลเร็วขึ้นจากเดิมที่กำหนดไว้ในเดือน ธ.ค.63 เนื่องจากสามารถรับรู้รายได้และสร้างกระแสเงินสดให้กับบริษัทได้ทันที เป็นช่วงที่ราคาก๊าซจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

โดยบ้านปูฯ นับเป็นบริษัทไทยรายแรกที่เข้าไปลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ โดยเริ่มลงทุนที่แหล่งก๊าซธรรมชาติมาร์เซลลัส (Marcellus) ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า 104,000 ตารางไมล์ กินพื้นที่ทั้งในรัฐเพนซิลเวเนีย เวสต์เวอร์จิเนีย โอไฮโอฝั่งตะวันออก และฝั่งตะวันตกของรัฐนิวยอร์ก คิดเป็นมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 522 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 15,000 ล้านบาท และมีกำลังการผลิตเฉลี่ยประมาณ 170-200 ล้าน ลบ.ฟ./วัน

ในปีนี้นับเป็นปีที่ 5 ที่บ้านปูฯ ได้เข้าไปลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่ยังคงขยายตัว นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งสำนักงาน ณ แหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติ เมืองทันแคนน็อค รัฐเพนซิลเวเนีย และยังเสริมทีมทำงานทั้งไทยและสหรัฐฯ ที่มีความชำนาญในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากหินดินดาน เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจก๊าซธรรมชาติ

สำหรับการลงทุนในแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ (Barnett) ณ บริเวณฟอร์ต เวิร์ธ เบซิน (Fort Worth Basin) ซึ่งเป็นแหล่งผลิตปิโตรเลียมที่สำคัญทางทิศเหนือของเท็กซัสตอนกลางกินพื้นที่ไปจนถึงทิศตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐโอคลาโฮมา ด้วยมูลค่าการลงทุน 489.80 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 15,407.89 ล้านบาท ทำให้บ้านปูฯ เป็นผู้ดำเนินการผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญที่สุดในแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์จากหลุมผลิตกว่า 4,200 หลุม บนพื้นที่กว่า 350,000 เอเคอร์ ซึ่งมีปริมาณก๊าซธรรมชาติสำรองที่พิสูจน์แล้ว (1P) ประมาณ 3.5 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุตเทียบเท่า (Trillion Cubic Feet Equivalent: Tcfe) และมีกำลังการผลิตเฉลี่ยประมาณ 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันเทียบเท่าก๊าซธรรมชาติ (Million Cubic Feet Equivalent Per Day: MMcfed)

ทั้งนี้ กำลังการผลิตของแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ 1 วัน สามารถผลิตไฟฟ้าให้กับพื้นที่เทียบเท่ากับกรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการได้ถึง 1.2 วัน

"บ้านปูฯ ยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจนี้เพื่อต่อยอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ทั้งในส่วนการจำหน่ายก๊าซธรรมชาติผ่านท่อส่ง พร้อมมองหาโอกาสในการลงทุนเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพราะอุตสาหกรรมก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ ยังคงมีแนวโน้มที่เติบโตแข็งแกร่ง มีตลาดในประเทศขนาดใหญ่ที่ไม่มีความผันผวน รวมถึงความต้องการนำก๊าซธรรมชาติไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบที่หลากหลาย อาทิ การใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงไฟฟ้าและโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงการผลิตเป็นก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ฯลฯ

ทั้งนี้ บ้านปูฯ พร้อมเดินหน้าเร่งขยายการเติบโตและเพิ่มความมั่นคงในธุรกิจก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ เพื่อสร้างกระแสเงินสดที่ต่อเนื่องและผลตอบแทนที่ยั่งยืนแก่ผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติที่พร้อมจะสร้างอนาคตทางพลังงานที่ยั่งยืน" นางสมฤดี กล่าว

นายฐิติ เมฆวิชัย ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร - ธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ BANPU กล่าวว่า เมื่อรวมแหล่งก๊าซธรรมชาติทั้ง 2 แหล่งเข้าด้วยกัน บ้านปูฯ จะมีปริมาณก๊าซธรรมชาติสำรองที่พิสูจน์แล้ว (1P) ทั้งหมดประมาณ 4 ล้านล้านลบ.ฟ.เทียบเท่าก๊าซธรรมชาติ พร้อมกำลังการผลิตเฉลี่ยรวมเกือบ 800 ล้าน ลบ.ฟ./วัน เทียบเท่าก๊าซธรรมชาติ ส่งผลให้บ้านปูฯ เป็นหนึ่งในบริษัทผลิตก๊าซที่ใหญ่ที่สุด 20 อันดับแรกในสหรัฐฯ มีปริมาณก๊าซธรรมชาติสำรองอย่างน้อย 12 ปี และสามารถขยายได้อีกหากปัจจัยราคาเกื้อหนุน ซึ่งถือเป็นการเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน

อีกทั้งประโยชน์ที่ได้จากแหล่งก๊าซสองแหล่งคือการสร้างพลังร่วม (Synergy) ระหว่างแหล่งก๊าซ เพิ่มมูลค่าจากการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในกระบวนการผลิต และเทคโนโลยี Automation และ Data Analytics เข้ามาใช้ในการบริหารหลุมก๊าซจำนวนมากด้วยระบบบริหารแบบลีน (Lean Operation) จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดต้นทุน และเสริมความปลอดภัยได้อย่างดีเยี่ยม ดังนั้นบ้านปูฯ เชื่อมั่นว่าธุรกิจก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ จะสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างต่อเนื่อง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ