บมจ.ศุภาลัย (SPALI) เตรียมจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ศุภาลัย (SPALIRT) โดยบริษัทจะถือหุ้นในกองทรัสต์ดังกล่าวไม่เกิน 20% พร้อมจะขายโครงการอาคารสำนักงานที่ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจบริเวณริมถนนพระราม 3 แก่กองทรัสต์ดังกล่าว มีมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 3,200 ล้านบาท โดยมี Adelphi เป็นผู้จัดการกองทรัสต์
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2563 เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2563 ได้มีมติอนุมัติให้จำหน่าย กรรมสิทธิ์ในที่ดิน อาคาร และส่วนควบรวมถึงสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ ของโครงการศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ (โครงการศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์) ซึ่งเป็นโครงการอาคารสำนักงานที่ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจบริเวณริมถนนพระราม 3 แก่ทรัสต์ SPALIRT โดยมูลค่าการจำหน่ายทรัพย์สินของโครงการศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์ จะมีมูลค่าสูงสุดไม่เกิน 3,200 ล้านบาท รวมถึงมีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าลงทุนใน SPALIRT ในสัดส่วนไม่เกิน 20% ของมูลค่ารวมของหน่วยทรัสต์ทั้งหมด ที่เสนอขายในกรณีที่ SPALIRT ได้รับการอนุมัติให้จัดตั้ง และมีการขายหน่วยลงทุน
ต่อมาที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 10/2563 เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2563 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าลงทุนในบริษัท อเดลฟี เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด (Adelphi) ในสัดส่วน 30% ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้วทั้งหมด ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นรายอื่นของ Adelphi ได้แก่ นายปิยะพงศ์ พินธุประภา ถือหุ้นในสัดส่วน 60% นายปริย ตัณฑเกษม ถือหุ้นในสัดส่วน 5% และนายอิ๊กชอง โหยว ถือหุ้นในสัดส่วน 5% โดย Adelphi เป็นผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้จัดการกองทรัสต์จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) โดย Adelphi ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของ SPALIRT มีหน้าที่เสาะหาอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้ SPALIRT เข้าลงทุน และดำเนินการบริหารจัดการ SPALIRT รวมทั้งจัดหาประโยชน์จากทรัพย์สินของโครงการศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์
ทั้งนี้ Adelphi ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ และบริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี จำกัด (JayCap) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน ได้จัดเตรียมเอกสารเพื่อขออนุมัติการจัดตั้งทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์จากสำนักงานก.ล.ต. รวมถึงได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหน่วยทรัสต์ (แบบ 69-REIT) ของ SPALIRT แก่สำนักงานก.ล.ต. แล้ว เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2563