SCC ประเมินใช้เงินลงทุนปีนี้ราว 6 หมื่นลบ.,กำไร Q3/63 โต 57% จากงวดปีก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 29, 2020 13:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) หรือเอสซีจี คาดการณ์รายจ่ายลงทุนและเงินลงทุนของทั้งปี 63 ที่ประมาณ 60,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่ใช้ในธุรกิจเคมิคอลส์และธุรกิจแพคเกจจิ้ง เพื่อลงทุนก่อสร้างโรงงานใหม่ รวมถึงโครงการขยายกำลังการผลิตและปรับปรุงประสิทธิภาพ โดยในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้มีมูลค่าการลงทุนแล้ว 37,298 ล้านบาท เป็นการลงทุนธุรกิจเคมิคอลส์ 65% ธุรกิจแพ็คเกจจิ้ง 17% ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง 14% และส่วนงานอื่น 4%

ก่อนหน้านี้ SCC ระบุถึงเป้าหมายการลงทุนในปีนี้ที่ระดับ 55,000-65,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่ประมาณ 50% จะเป็นการใช้เพื่อก่อสร้างโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ที่เวียดนาม

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/63 เอสซีจีมีกำไรสำหรับงวดเท่ากับ 9,741 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อน โดยมีรายได้จากการขายเท่ากับ 100,938 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากผลการดำเนินงานของธุรกิจเคมิคอลส์ที่ดีขึ้น ตามความต้องการสินค้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในประเทศจีนและภูมิภาคเอเชีย

ขณะที่เอสซีจีมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เท่ากับ 19,334 ล้านบาท ลดลง 12% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เนื่องจากไตรมาสก่อนเป็นช่วงที่มีเงินปันผลรับจากบริษัทร่วมและบริษัทอื่น

เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้จากการขายลดลง 9% ในขณะที่กำไรสำหรับงวดเพิ่มขึ้น 57% และมี EBITDA เพิ่มขึ้น 30% จากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจเคมิคอลส์ และการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง

รายการสำคัญ (Key items) ในไตรมาสนี้ รวมขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ 461 ล้านบาท ส่วนใหญ่จากธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ในขณะที่ไตรมาส 3/62 รวมการกลับรายการสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชี (DTA) จำนวน 1,063 ล้านบาทของธุรกิจเคมิคอลส์ และขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ 762 ล้านบาท ซึ่งหากไม่รวมรายการดังกล่าว กำไรสำหรับงวดในไตรมาสนี้ยังคงดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน

เอสซีจียังคงมีโครงสร้างทางการเงินที่มั่นคงโดยมีเงินสดและเงินสดภายใต้การบริหาร ณ สิ้นไตรมาส 3/63 เท่ากับ 87,352 ล้านบาท ขณะที่ ณ สิ้นไตรมาส 4/62 อยู่ที่ 46,002 ล้านบาท เงินทุนหมุนเวียนสุทธิ 68,045 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 550 ล้านบาท หรือ 1% และมีอัตราหมุนเวียนสินค้าคงเหลือต่อยอดขายลดลงมาอยู่ที่ 47 วัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ