บมจ. อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) ชี้แจงว่า กำไรสุทธิรวมของกลุ่มอินทัช สำหรับไตรมาส 3/63 และสำหรับงวดเก้าเดือนของปีนี้ กลุ่มอินทัชมีกำไรสุทธิรวม 2,660 ล้านบาท และ 8,382 ล้านบาท ตามลำดับ ลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมา และลดลงจากปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการลดลงของส่วนแบ่งผลกำไรจากธุรกิจโทรคมนาคมไร้สายภายในประเทศ โดยมีสาเหตุหลักจากการลดลงของรายได้ การเพิ่มขึ้นของค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย และมีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ กับการลดลงของต้นทุนในการจัดจำหนายและค่าใช้จ่ายในการบริหาร
ขณะที่ส่วนแบ่งผลกำไรจากธุรกิจดาวเทียม และธุรกิจในต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากปีก่อน แต่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เนื่องจากในไตรมาส 2/2563 มีการรับรู้รายได้จากเงินชดเชย เป็นรายได้อื่น จำนวนรวม 621 ล้านบาท (สุทธิกับการตัดจำหนายเงินจ่ายล่วงหน้า)
กำไร(ขาดทุน)สุทธิของอินทัชในไตรมาสนี้ มีผลการดำเนินงานเป็นกำไรสุทธิจากการรับรู้กำไรจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนและ มีกำไรจากการขายเงินลงทุนในโครงการ Venture Capital จำนวนรวม 75 ล้านบาท สำหรับค่าใช้จ่ายของอินทัชในไตรมาสนี้ใกล้เคียงกับไตรมาสที่ผ่านมา แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายพนักงาน และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2563 ที่เลื่อนมาจัดในเดือนกรกฏาคม 2563 และเมื่อเปรียบเทียบกับงวดเก้าเดือนของปี 2562 ค่าใช้จ่ายของอินทัชลดลง เนื่องจากในปี 2562 มีการรับรู้ต้นทุนบริการในอดีตสำหรับผลประโยชน์พนักงานเพิ่มขึ้นจาก พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน
ส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนในกลุ่มเอไอเอส ลดลงร้อยละ 7 และร้อยละ 24 จากไตรมาส 2/63 และไตรมาส 3/63 ตามลำดับ รวมทั้งลดลงร้อยละ 14 จากงวดเก้าเดือนปี 2562 โดยรวมรายได้จากการขายและการให้บริการลดลง ส่วนใหญ่เป็นผลจากการลดลงของรายได้จากการให้บริการธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง การแข่งขันด้านราคาที่กดดันให้ ARPU ลดลงโดยเฉพาะจากแพ็กเกจใช้งานดาต้าไม่จำกัด (unlimited data) แม้ว่าจะมีการขึ้นราคาแพ็คเกจใช้งานดาต้าแบบไม่จำกัดก็ตาม รวมถึงรายได้ที่หายไปจากกลุ่มนักท่องเที่ยวสุทธิกับรายได้จากกธุรกิจอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงยังคงเพิ่มขึ้นจากการเติบโตของฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง และกระแสการทำงานจากบ้านชดเชยกับ ARPU ที่ลดลงจากการเสนอขายแพ็กเกจราคาถูกเพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อลดลง