SAMART ขายทิ้งหุ้น OTO ให้นักลงทุน 3 รายรับเงิน 464 ลบ.ปรับโครงสร้างธุรกิจ

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday November 21, 2020 17:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น (SAMART) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 8/2563 เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2563 มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นของบมจ.วันทูวัน คอนแทคส์ (OTO) กับนักลงทุน 3 ราย ได้แก่ นายบุญเอื้อ จิตรถนอม นายสุทธิพจน์ อริยสุทธิวงศ์ และนายณัฐพงศ์ ศีตวรรัตน์ โดยบริษัทฯ และบริษัท สามารถวิศวกรรม จำกัด (SE) จะจำหน่ายหุ้นสามัญที่ถือใน OTO จำนวน 191,600,000 หุ้น และ 2,100,000 หุ้น ตามลำดับ รวมเป็นจำนวนหุ้นทั้งสิ้น 193,700,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 69.18 ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ OTO ในราคาหุ้นละ 2.40 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 464,880,000 บาท

การจำหน่ายหุ้นสามัญของ OTO จะทำให้บริษัทฯ ได้รับเงินสดจำนวณ 464,880,000 บาท ซึ่งบริษัทฯ มีแผนที่จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการของบริษัทฯ และช่วยรองรับการขยายกิจการในอนาคต และชำระหนี้กับสถาบันทางการเงิน

หลังการทำรายการ ทำให้กลุ่มผู้ลงทุน 3 รายดังกล่าวเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน OTO สัดส่วนร้อยละ 69.18 แทน SAMART และ สามารถวิศวกรรม ขณะที่นายสุทธิพจน์ อริยสุทธิวงศ์ ถืออยู่ก่อนหน้าสัดส่วนร้อยละ 4.59

ภายหลังวันที่มีการซื้อขายเสร็จสมบูรณ์กรรมการของ OTO จำนวน 6 ท่านจะทำการลาออกจากตำแหน่งประกอบไปด้วย 1) นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ 2) นายธนานันท์ วิไลลักษณ์ 3) นายศิริชัย รัศมีจันทร์ 4) นายธีระชัย พงศ์พนางาม 5) นางผ่องศรี สลักเพชร และ 6) นพ.ระเฑียร ศรีมงคล

ทั้งนี้ OTO จะทำการอนุมัติแต่งตั้งบุคคลทีผู้ซื้อหุ้นกำหนดเป็นกรรมการ ผู้บริหาร และกรรมการชุดย่อยของบริษัทฯ และการเปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัทฯ ตามทีผู้ซื้อกำหนด โดยให้มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงภายใน 1 วันทำการ นับจากวันที่การซื้อขายเสร็จสมบูรณ์

มูลค่าสิ่งตอบแทนสำหรับรายการขายหุ้นสามัญของ OTO เป็นไปตามการเจรจาต่อรองและการตกลงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งบริษัทฯ ได้พิจารณาราคาเสนอซื้อประกอบกับราคาประเมินมูลค่ากิจการด้วยวิธีต่างๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากราคาเสนอซื้อที่หุ้นละ 2.40 บาท บริษัทฯ พิจารณาแล้วว่าเป็นราคาสูงกว่าราคาประเมินมูลค่ายุติธรรมต่อหุ้นหักด้วยเงินปันผลรับที่หุ้นละ 0.80 บาท

ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดกับบริษัทฯ จากการจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ โดยการจำหน่ายหุ้นสามัญทั้งหมดของ OTO เป็นการปรับโครงสร้างของบริษัทฯ เชิงกลยุทธ์เนื่องจากบริษัทฯ มีเป้าหมายในการสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจบนพื้นฐานของความชำนาญและโอกาสการเติบโตในระยะยาว โดยธุรกิจที่มุ่งเน้น (Core Business) ประกอบด้วยธุรกิจด้าน Digital ICT Solutions & Services และธุรกิจด้าน Utilities & Transportations ซึ่งเกี่ยวโยงกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ จากเป้าหมายดังกล่าวนำมาสู่การปรับโครงสร้างธุรกิจให้มีความชัดเจน เพื่อผลักดันให้บริษัทฯ มุ่งเน้นการเติบโตและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและการต่อยอดธุรกิจ

ทั้งนี้ บริษัทฯ จึงตัดสินใจจำหน่ายหุ้นสามัญของ OTO ซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการ Contact Center ให้กับกลุ่มนักลงทุนดังกล่าวที่มีความสนใจ และมีศักยภาพในการขับเคลื่อนธุรกิจนี้ให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ