บมจ.ปตท. (PTT) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 12/2563 เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2563 ได้มีมติอนุมัติงบการลงทุน 5 ปี (ปี 2564-2568) ของ ปตท. และบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้นร้อยละ 100 วงเงินรวม 179,072 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้
หน่วย : ล้านบาท
ธุรกิจ ปี 2564 ปี 2565 ปี 2566 ปี 2567 ปี 2568 รวม ร้อยละ ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ 8,051 13,403 5,238 3,827 33 30,552 17 ธุรกิจท่อส่งก๊าซธรรมชาติ 6,770 4,524 1,159 348 252 13,053 7 ธุรกิจการค้าระหว่างประเทศและ 630 376 620 371 193 2,190 1 ธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย ธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรมและ 4,063 2,250 797 493 452 8,055 5 สำนักงานใหญ่ การลงทุนในบริษัทที่ปตท.ถือหุ้น 100% 56,885 28,761 13,700 13,512 12,364 125,222 70 รวม 76,399 49,314 21,514 18,551 13,294 179,072 100
ทั้งนี้ ปตท.ยังคงมุ่งเน้นการลงทุนในธุรกิจหลัก (Core Businesses) ได้แก่ กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ทั้งในส่วนที่ ปตท. ดำเนิน งานเอง (ธุรกิจก๊าซธรรมชาติและท่อส่งก๊าซธรรมชาติ) อาทิ โรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 7 เพื่อทดแทนโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 1 และ โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกเส้นที่ 5
รวมถึงลงทุนผ่านบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้นร้อยละ 100 (คิดเป็นสัดส่วนการลงทุนของงบการลงทุน 5 ปี ประมาณร้อยละ70 ) ซึ่ง ประกอบด้วย การลงทุนที่เกี่ยวเนื่องกับก๊าซธรรมชาติประมาณร้อยละ 14 ของงบการลงทุน 5 ปี อาทิ การขยายขีดความสามารถของสถานีรับจ่าย ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) แห่งที่ 2 (หนองแฟบ) และโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 การลงทุนในธุรกิจน้ำมันและ ธุรกิจค้าปลีกรวมถึงธุรกิจใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศประมาณร้อยละ 42 ของงบการลงทุน 5 ปี และธุรกิจอื่นๆ ประมาณร้อยละ 14 ของ งบการลงทุน 5 ปี
นอกจากนี้ ปตท. ยังได้จัดเตรียมงบลงทุนในอนาคต (Provisional Capital Expenditure) ในระยะ 5 ปีข้างหน้าอีก จำนวน 331,524 ล้านบาท เพื่อการเติบโต และเสริมสร้างความร่วมมือภายในกลุ่ม ปตท. จากความเชี่ยวชาญของธุรกิจเดิม อาทิ โครงการ Southern LNG Terminal และท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (PDP2018) การ ขยายการลงทุนธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลวครบวงจร (LNG Value Chain) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และการเชื่อมต่อระหว่างธุรกิจก๊าซ ธรรมชาติสู่ธุรกิจผลิตไฟฟ้า (Gas-to-Power)
ตลอดจนการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตตามการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของวิถีชีวิตแบบใหม่และนิเวศทางเศรษฐกิจใหม่ (New Ecosystem Business Model) เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและทิศทางของโลก อาทิ ห่วงโซ่ธุรกิจพลังงานไฟฟ้า (Electricity Value Chain) รวมถึงการมุ่งสู่ธุรกิจใหม่ในกลุ่ม Life science (ธุรกิจยา ธุรกิจ Nutrition ธุรกิจอุปกรณ์การแพทย์) นอกจากนี้ ยังมีงบการลงทุนในอนาคตที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานหมุนเวียนหรือพลังงานสะอาด เพื่อให้กลุ่ม ปตท. บรรลุเป้าหมายกำลังผลิตไฟฟ้า จากพลังงานหมุนเวียนเป็น 8,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2573 ตามแผนยุทธศาสตร์ในการเป็นผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน