ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รับหลักทรัพย์หุ้นสามัญของ บมจ.โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล ชื่อย่อ KISS เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน โดยวันที่เริ่มทำการซื้อขาย ในวันที่ 19 ก.พ.64 ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค หมวดธุรกิจของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ ด้วยจำนวนหุ้นจดทะเบียน 600 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 0.50 บาท ทุนชำระแล้ว 300 ล้านบาท โดยมีจำนวนหุ้น IPO 152,641,600 หุ้น
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ. โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคและบริโภค หมวดของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "KISS" ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564
KISS ประกอบธุรกิจพัฒนา จ้างผลิต และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงามและสุขภาพทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการให้บริการคำปรึกษาในการดำเนินธุรกิจและการตลาดสำหรับการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของบริษัทในต่างประเทศด้วย สินค้าของบริษัทอยู่ภายใต้ 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ 5 แบรนด์หลัก กว่า 200 SKUs ได้แก่ 1) ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว "Rojukiss" "PhDerma/PhD K-Derma" "Wonder Herb" and "Best Korea" 2) ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง "Sis2Sis" 3) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร "Rojukiss"
ในวันแรกของการเข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ KISS มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 300 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรก จำนวนรวม 152.64 ล้านหุ้น ประกอบด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 60 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Aurora Asia Holdings Pte. Ltd. จำนวน 92.64 ล้านหุ้น เสนอขายให้บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ผู้ลงทุนสถาบันและนิติบุคคล ผู้มีอุปการคุณของบริษัท กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท ในราคาหุ้นละ 9 บาท มูลค่าระดมทุนรวม 540 ล้านบาท (ไม่รวมการเสนอขายหุ้นสามัญเดิม) และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 5,400 ล้านบาท โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บล.ไทยพาณิชย์ เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นางวรวรรณ ไชยกำเนิด กรรมการผู้จัดการ KISS กล่าวว่า บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมความงามและสุขภาพของไทยและภูมิภาคเอเชีย การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทฯ มีแผนงานที่จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนมาเพิ่มขีดความสามารถของบริษัทฯ เพื่อบรรลุเป้าหมาย และสนับสนุนให้บริษัทพัฒนาผลิตภัณฑ์และแบรนด์ใหม่ในประเทศไทย ขยายฐานลูกค้าและช่องทางการขายตรงแก่ผู้บริโภค ขยายธุรกิจในต่างประเทศ อีกทั้งนำเทคโนโลยีและดิจิทัลมาช่วยพัฒนานวัตกรรม เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวาง
บริษัทฯ มีแผนที่จะสร้างฐานข้อมูลของผู้บริโภคและการพัฒนา Mobile Skin Analysis เครื่องมือในการวิเคราะห์สภาพผิว แนะนำผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ผ่านการเชื่อมต่อช่องทาง E-commerce ได้อีกด้วย
KISS มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO 3 อันดับแรก ได้แก่ Aurora Asia Holding Pte. Ltd. ถือหุ้น 36.1% นางสาวปิยวดี สอนสิงห์ ถือหุ้น 21.3% และ Guts and Good Pte Ltd. ถือหุ้น 8%
KISS มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและสำรองต่างๆ ตามกฎหมาย และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานตามที่คณะกรรมการและผู้ถือหุ้นเห็นสมควร โดยไม่เกินกำไรสะสม