บมจ.ไมด้า แอสเซ็ท(MIDA) ยืนยันว่า นางสุธาสินี เสตะพันธุ มีภาระต้องรับผิดชอบเงินกู้ 256.2 ล้านบาทที่นำหุ้น บริษัท สมุย เพนนินซูลา มาค้ำประกันไว้ เพื่อนำไปชำระหนี้ค่าก่อสร้างเก่า และ MIDA อยู่ระหว่างเจรจาขายหุ้นบริษัทดังกล่าวคืนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในราคาที่ไม่ทำให้บริษัทฯได้รับความเสียหายใดๆ ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว
ทั้งนี้ MIDA ได้ร่วมลงทุนในบริษัทสมุยฯ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2549 ซึ่งตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาร่วมทุน หากปรากฏว่าบริษัทสมุย มีหนี้สินที่ไม่ได้ระบุไว้ในงบการเงินชุดที่นำมาแสดงต่อ MIDA ณ วันทำสัญญา หนี้สินหรือภาระที่เกิดขึ้นก่อน MIDA เข้า
ไปลงทุนให้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ถือหุ้นเดิมคือ นางสุธาสินี เสตะพันธุ ซึ่งต่อมาปรากฏว่า บริษัทสมุยมีหนี้สินค้างชำระค่าก่อสร้างเก่า ซึ่งหากไม่ชำระจะส่งผลเสียหายต่อบริษัทสมุย คณะกรรมการบริษัทสมุย จึงได้อนุมัติให้ มีการกู้เงินดังกล่าวเพื่อไปชำระหนี้ และมีการค้ำประกันเงินกู้ โดยการนำหุ้นในบริษัทสมุย ของนางสุธาสินี จำนวน 1,280,000 หุ้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 22.10 ของหุ้นทั้งหมดของ บริษัทสมุยมาจำนำไว้เป็นหลักประกันต่อบริษัท
MIDA ได้พยายามแก้ไขปัญหาเพื่อมิได้เกิดความเสียหายต่อ MIDA โดยนางสุธาสินี ต้องรับผิดชอบรายการนี้ทั้งหมด มิฉะนั้นนางสุธาสินี ต้องซื้อหุ้นคืนจาก MIDAไปทั้งหมด ซึ่งนางสุธาสินี ได้ตกลงซื้อหุ้นในบริษัทสมุย คืนทั้งหมด โดยใช้ราคาตามสัญญาร่วมทุนซึ่งระบุว่ากรณีมีข้อขัดแย้งให้ใช้ราคาที่ MIDA ซื้อบวกดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 12 ต่อปี แต่ MIDA ได้ยื่นขอเสนอกลับไปว่า การซื้อขายหุ้นขอให้พิจารณาซื้อหุ้นทุกบริษัทที่มีการร่วมทุนกันและต้องการให้มีการเจรจาเรื่องราคาอีกครั้งหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ความขัดแย้งจึงยังไม่ยุติ และมีการนำรายการกู้ยืมเงินมาโต้แย้ง
บริษัทฯกำลังดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ด้วยการเจรจาขายหุ้นในบริษัทสมุยคืนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ในราคาที่ไม่ทำให้บริษัทฯได้รับความเสียหายใดๆ ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ทั้งนี้ หากมีการขายหุ้นคืนแล้ว รายการกู้ยืมเงินดังกล่าว ผู้ถือหุ้นเดิมจะดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องภาระหนี้สินและรายการกู้ยืมเงินได้ โดยไม่มีข้อขัดข้องจากบริษัทฯ
--อินโฟเควสท์ โดย ศศิธร ซิมาภรณ์ โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--