ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดเผยว่า ตามที่ตลท.ได้กำหนดระยะเวลาการฟื้นฟูกิจการของบริษัทที่เข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนเป็น 2 ช่วงคือ ช่วงดำเนินการแก้ไขให้เหตุเพิกถอนหมดไป (Remedy Stage) และช่วงดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขาย (Resume Stage) ซึ่งมีบริษัทที่ครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวมีด้วยกัน 10 บริษัท
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอแจ้งการดำเนินการ ดังนี้
1. ให้เวลา 4 บริษัทจดทะเบียน อีกไม่เกิน 1 ปี เพื่อแก้ไขเหตุเพิกถอน หรือดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขาย ดังนี้
เหตุฐานะการเงิน กรณีส่วนผู้ถือหุ้นต่ำกว่าศูนย์ ที่อยู่ระหว่างแก้ไขเหตุเพิกถอน (Remedy Stage) ได้แก่ บมจ.พีเออี (PEA) ให้เวลาจนถึง 3 เดือนนับแต่วันที่ศาลล้มละลายมีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการ แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกินวันที่ 31 มี.ค.65 โดยหากศาลล้มละลายมีคำสั่งไม่เห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการก่อนวันที่ 31 มี.ค.65 หรือภายในวันที่ 31 มี.ค.65 ศาลล้มละลายยังไม่มีคำสั่งเห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการ ไม่ว่ากรณีใดกรณีหนึ่ง ตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจพิจารณาดำเนินการเพิกถอนหลักทรัพย์ต่อไป
เหตุฐานะการเงิน กรณีส่วนผู้ถือหุ้นต่ำกว่าศูนย์ ปัจจุบันส่วนผู้ถือหุ้นเป็นบวก โดยอยู่ระหว่างดำเนินการให้มีคุณสมบัติเพื่อกลับมาซื้อขาย (Resume Stage) ได้แก่ บมจ.โปรเฟสชั่นแนล เวสต์ เทคโนโลยี (1999) (PRO) ให้เวลาจนถึง 31 มี.ค.65, บมจ.ซาฟารีเวิลด์ (SAFARI), บริษัท ทุ่งคาฮาเบอร์ (THL) ให้เวลาถึง 30 มิ.ย.64
หากบริษัทจดทะเบียนดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการได้ภายในระยะเวลาที่กำหนดข้างต้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเสนอคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อพิจารณาเพิกถอนหุ้นสามัญของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อไป
2. อยู่ระหว่างพิจารณาและจะแจ้งผลการพิจารณาให้ทราบต่อไป จำนวน 4 บริษัท ได้แก่ บมจ.อินเตอร์ ฟาร์ฮีส์ท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น (IFEC) , บมจ.เวนเจอร์ อินคอร์ปอเรชั่น (VI), บมจ.วีรี่เทล (WR) และบมจ.ยงไทย (YCI)
ส่วน บมจ.เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ (KC) และบมจ. ซันไทยอุตสาหกรรมถุงมือยาง (STHAI) ได้ยื่นคำขอเพื่อกลับมาซื้อขายแล้ว โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ระหว่างพิจารณาคำขอ