ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) รับหลักทรัพย์ บมจ.เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ ใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ NSL เริ่มซื้อขายตลาดหลักทรัพย์ (SET) ในวันที่ 19 พ.ค. 64 กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดอาหารและเครื่องดื่ม
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ. เอ็นเอสแอล ฟู้ดส์ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดอาหารและเครื่องดื่ม โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "NSL" วันที่ 19 พ.ค.64
NSL ผลิตและจำหน่ายสินค้าเบเกอรี่ อาหารรองท้อง และขนมขบเคี้ยว รวมทั้งนำเข้าและจำหน่ายเนื้อสัตว์และผักแช่แข็ง มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท มีจำนวนหุ้น IPO 75 ล้านหุ้น
นายอัครเดช เลี่ยมเจริญ ผู้อำนวยการด้านบัญชีและการเงิน NSL เปิดเผยว่า บริษัทวางทิศทางธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง โดยในปีนี้จะมีการขยายการลงทุนในธุรกิจสแน็คภายใต้แบรนด์ NSL และกลุ่มธุรกิจฟู้ด เซอร์วิส ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทเชื่อมั่นว่าหลังการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำให้สถานะทางการเงินของบริษัทฯ มีความเข้มแข็งมากขึ้น พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 64 ไม่ต่ำกว่า 3,500 ล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 16% และตั้งเป้ายอดขายแตะ 6,000 ล้านบาทในอีก 5 ปีข้างหน้า
นายสมชาย อัศวปิยานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ NSL เปิดเผยว่า ธุรกิจของบริษัทมุ่งเน้นผลิตสินค้าเบเกอรี่ให้แก่ร้าน 7-11 ทั่วประเทศและพัฒนาสินค้าในแบรนด์ของ NSL เอง เพื่อให้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์อาหารที่ตอบสนองทุกช่วงวัยของชีวิต
บริษัทมีแผนงานที่จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนมาเพิ่มขีดความสามารถของบริษัทฯ โดยบริษัทจะลงทุนในเครื่องจักรและก่อสร้างอาคารโรงงานแห่งใหม่ ซึ่งจะเน้นการผลิต 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ได้แก่ อาหารแช่แข็งพร้อมรับประทาน อาหารพร้อมรับประทานแบบไม่ต้องแช่เย็น และอาหารแห้งกึ่งสำเร็จรูป โดยมุ่งเน้นตลาดในประเทศเป็นหลักและขยายสู่ตลาดทั่วโลกต่อไป นอกจากนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุนยังจะช่วยปรับโครงสร้างทางการเงินจากการชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียน
NSL มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 50.0% อย่างไรก็ตามบริษัทฯ อาจพิจารณาจ่ายเงินปันผลแตกต่างไปจากนโยบายที่กำหนดไว้ได้ โดยจะขึ้นอยู่กับผลประกอบการ ฐานะการเงิน สภาพคล่องทางการเงิน ความจำเป็นในการใช้เงินเพื่อบริการกิจการ และขยายธุรกิจของ NSL รวมถึงภาวะเศรษฐกิจ ณ ขณะนั้น