บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR) เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการเสนอขายหุ้นสามัญของ TIDLOR ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) รวมจำนวนทั้งสิ้น 970,428,600 หุ้น มาจาก (1) การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่ 210,816,700 หุ้น (2) การเสนอขายหุ้นสามัญเดิมที่ถือโดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) จำนวน 284,144,300 หุ้น และ (3) การเสนอขายหุ้นสามัญเดิมที่ถือโดย Siam Asia Credit Access Pte. Ltd. (SACA) จำนวน 412,467,600 หุ้น
นอกจากนั้น ยังมีการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Over-Allotment) อีกเป็นจำนวน 136,114,200 หุ้น คิดเป็น 15% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่เสนอขายในการเสนอขายหุ้นใน IPO ครั้งนี้
โดย บล. เกียรตินาคินภัทร ในฐานะผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินได้ยืมหุ้นสามัญจำนวน 74,244,100 หุ้นจาก BAY และจำนวน 61,870,100 หุ้นจาก SACA ซึ่งทั้งสองรายเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ เพื่อส่งมอบให้แก่ผู้จองซื้อที่ได้รับการจัดสรรหุ้น โดยผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินจะดำเนินการจัดหาหุ้นจำนวนดังกล่าวภายใน 30 วัน นับจากวันที่หุ้นของบริษัทเริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อส่งคืนให้แก่ BAY และ SACA ซึ่งระยะเวลาดังกล่าวได้สิ้นสุดลงในวันที่ 8 มิถุนายน 2564
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2564 ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินแจ้งความประสงค์เพื่อใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญจำนวน 74,244,100 หุ้น และ 61,870,100 หุ้นจาก BAY และ SACA ตามลำดับ ในฐานะผู้ให้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มเติม ในราคา 36.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาเดียวกันกับราคา IPO ตามที่ระบุไว้ในสัญญาแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (Underwriting Agreement) ซึ่งคิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 2,709,909,650 บาท และ 2,258,258,650 บาทตามลำดับ
ทั้งนี้ เนื่องจาก BAY และ SACA เป็นทั้งผู้ให้ยืมหุ้นและผู้ให้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ผู้จัดหาหุ้นส่วนเกินได้ใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญจาก BAY และ SACA เพื่อส่งมอบคืนหุ้นที่ยืมมาในจำนวนเดียวกันแก่ BAY และ SACA แล้ว จะไม่ส่งผลให้จำนวนหุ้นและสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทฯ ของ BAY และ SACA เปลี่ยนแปลง โดย BAY ถือหุ้น 30% และ SACA ถือหุ้น 25%