บมจ.เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (7UP) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทพิจารณาอนุมัติกลับเข้าลงทุนในโครงการผลิตน้ำประปาจังหวัดภูเก็ตของบริษัท โกลด์ ชอร์ส จำกัด (GS) ด้วยการซื่อหุ้นจาก บมจ.บางกอกเดค-คอน (BKD) จำนวนทั้งสิ้น 2,551,976 หุ้น หรือคิดเป็น 40% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ GS ในมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น 550.00 ล้านบาท ซึ่งเคยได้รับมติอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2563
เนื่องจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทพิจารณาแล้วว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจังหวัดภูเก็ตกำลังจะฟื้นตัวดีขึ้น บริษัทจึงได้เจรจากับ BKD อีกครั้งเพื่อเข้าซื้อหุ้นของ GS โดยมีเงื่อนไขการเข้าทำรายการซื้อขายหุ้นให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.64 และจะส่งผลให้ 7UP ถือหุ้นใน GS เพิ่มเป็น 81%
ทั้งนี้ บริษัทได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและพิจารณาถึงความชัดเจนในการเปิดรับนักท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต รวมถึงความคืบหน้าของการฉีดวัคซีนให้ประชาชนในเกาะภูเก็ตซึ่งมีความคืบหน้ามากที่สุดในประเทศไทย ซึ่งจังหวัดภูเก็ตมีมาตรการเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในพื้นที่มากกว่า 70% และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีกำหนดการเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติภายใต้รูปแบบแซนด์บ๊อกซ์ ผ่านโครงการภูเก็ตโมเดล ซึ่งจะเริ่มรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติวันที่ 1 ก.ค.64 นี้
ก่อนหน้านี้ บริษัทได้มีการทำบันทึกข้อตกลงซื้อขายหุ้นของ GS จาก BKD เมื่อวันที่ 21 ก.ค.63 จำนวน 2,551,976 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 40% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของ GS มูลค่าการลงทุน 550.00 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขการเข้าทำรายการซื้อขายหุ้นให้เสร็จสมบูรณ์ภายในเดือน ม.ค.64 แต่เนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด?19 ในช่วงตั้งแต่ปลายปี 63 จนถึงปัจจุบัน ทำให้เกิดความไม่แน่นอนต่อปริมาณการใช้น้ำในจังหวัดภูเก็ต บริษัทฯ จึงได้ชะลอการลงทุนออกไปก่อน
นายมนต์เทพ มะเปี่ยม รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 7UP กล่าวว่า การเข้าซื้อหุ้น GS จะสนับสนุนให้บริษัทดำเนินธุรกิจสาธารณูปโภคทางด้านน้ำ และจะมีส่วนช่วยสร้างรายได้และกำไรในระยะยาว ขยายขอบเขตงานในกลุ่มธุรกิจสัมปทานผลิตน้ำประปา นับเป็นการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ เนื่องจาก GS ดำเนินธุรกิจพัฒนาระบบสาธารณูปโภคด้านการประปา พื้นที่ให้บริการหลักอยู่ในจังหวัดพังงาและภูเก็ต และได้รับสัมปทาน เป็นระยะเวลา 30 ปี หรือระหว่างปี 2560-2589 ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้มั่นคงให้กับบริษัทฯในระยะยาว
ปัจจุบัน GS มีกำลังการผลิตน้ำประปา 48,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และคาดว่าจะได้รับสัญญาขายน้ำประปาในจังหวัดภูเก็ตมากกว่า 40,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวันภายในปี 64 นี้ และทางโกลด์ ชอร์ส อยู่ระหว่างการก่อสร้างส่วนขยายเพิ่มเติม เพื่อให้มีกำลังการผลิต 96,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวันภายในปี 66
"กรณีขยายกำลังการผลิตได้เต็มกำลังผลิต คาดว่าจะสร้างรายได้ราว 550 ล้านบาท และจะเป็นผลให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจจำหน่ายน้ำประปา เพิ่มขึ้นสูงขึ้นและจะมีส่วนสำคัญในการสร้างผลประกอบการที่ดีให้กับบริษัทฯอย่างมั่นคงในระยะยาว เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวมีอัตรากำไรขั้นต้นในระดับสูงถึง 75% และมีอายุสัมปทานเป็นระยะเวลานานถึง 30 ปี" นายมนต์เทพ กล่าว
ทั้งนี้ โอกาสทางธุรกิจในการขายน้ำประปาในจังหวัดภูเก็ตยังมีอีกสูง หากสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ นับเป็นจังหวัดท่องเที่ยวหลักของประเทศ รวมถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว พบว่าความต้องการใช้น้ำกรณีสูงสุดอยู่ที่ 300,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ขณะที่การประปาส่วนภูมิภาค(กปภ.) สามารถให้บริการรองรับได้เพียง 80,000-100,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวันเท่านั้น นับเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจของโกลด์ ชอร์สใน อนาคต