บมจ.ที.เค.เอส.เทคโนโลยี (TKS) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้จัดโครงสร้างธุรกิจของบริษัทฯ และบริษัทย่อย เพื่อรองรับการเข้าลงทุนในบริษัท เวนดิ้ง พลัส จำกัด (VDP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบมจ. สบาย เทคโนโลยี (SABUY) เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ของบริษัทฯ ให้มีความสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของภาคธุรกิจและรูปแบบการดำเนินชีวิต (Lifestyle) ของผู้บริโภค โดยให้ความสำคัญในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ Digital Platform ซึ่งถูกเร่งให้เร็วขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจและสังคมทั่วโลก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบและวิธีการใช้บัตรพลาสติกจากการเป็นเพียงเครื่องมือในการยืนยันตัวตนเพื่อการทำธุรกรรม แต่ยกระดับเป็นตัวกลางในการเก็บข้อมูล เพื่อเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนทั้งทางด้านการเงินและบริการสำหรับกลุ่มธุรกิจและบริการต่างๆ เข้าด้วยกัน บริษัทฯ จึงจำเป็นต้องมีการทบทวนรูปแบบธุรกิจและร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพเพื่อให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค
ทั้งนี้ ในการจัดโครงสร้างธุรกิจของบริษัทฯ นั้น บริษัทฯ จะดำเนินการโอนทรัพย์สิน อันได้แก่ ที่ดิน และหุ้นสามัญในบริษัทย่อย และหนี้สิน รวมถึงภาระผูกพันทั้งหลาย ตามที่ได้มีการตกลงกับ VDP ให้กับ บริษัท ที. เค. เอส. สยามเพรส แมเนจเม้นท์ จำกัด (SPM) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ 99.99% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ SPM และ/หรือ บริษัท มาร์เวลแพค จำกัด (MVP)ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นทางอ้อมผ่าน SPM อยู่ 99.99% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ MVP
ภายหลังการดำเนินการการจัดโครงสร้างธุรกิจของบริษัทฯ บริษัทฯ จะมุ่งเน้นสู่ธุรกิจบัตรพลาสติก (Card Solution Business)และธุรกิจให้บริการตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine Business) โดยบริษัทฯ จะขาย SPM ซึ่งเป็นธุรกิจที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับธุรกิจบัตรพลาสติก (Card solution Business) ไปให้กับ TKS ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ
และจะนำเงินที่ได้เข้าลงทุนในธุรกิจให้บริการตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine Business) โดยการซื้อหุ้นสามัญของ VDP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SABUY จาก SABUY อันเป็นการต่อยอดธุรกิจใหม่ของบริษัทฯ และผนึกกำลัง (Synergy) ระหว่างธุรกิจบัตรพลาสติก (Card Solution Business)และธุรกิจให้บริการตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine Business) และ กับธุรกิจอื่น ๆ ของ SABUY ทั้งนี้ เพื่อที่จะให้การประกอบธุรกิจของบริษัทฯ สามารถปรับตัวได้ทันกับแนวโน้มเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
นอกจากนี้ อนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการโอนหุ้นสามัญของ SPM จำนวนไม่เกิน 55,999,994 หุ้น ซึ่งคิดเป็น 99.99% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ SPM ให้กับ TKS ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ที่ถือหุ้นใน บริษัทฯ 98.48% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัทฯในมูลค่ารวม 1,020 ล้านบาท
และอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการซื้อหุ้นสามัญของ VDP จำนวน 2,583,720 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท ในราคาไม่เกินหุ้นละ 394.9816543588310 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 1,020.52 ล้านบาท คิดเป็น 86.12% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ VDP จาก SABUY โดยบริษัทฯ จะชำระค่าตอบแทน ให้กับ SABUY เป็นเงินสดจำนวนไม่เกิน 1,020.52 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเข้าทำธุรกรรมการซื้อหุ้นสามัญของ VDP ภายหลังจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 ของบริษัทฯ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 27 สิงหาคม 2564 มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าทำรายการได้มาซึ่งทรัพย์สินและรายการที่เกี่ยวโยงกัน และภายหลังจากที่เงื่อนไขบังคับก่อนต่าง ๆ ในสัญญาซื้อขายหุ้น (Share Purchase Agreement) ระหว่างบริษัทฯ และ SABUY สำเร็จครบถ้วน โดยบริษัทฯ คาดว่าจะเข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้น (Share Purchase Agreement) ภายหลังจากได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2564 และคาดว่าจะทำรายการแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2564